เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “นช.ทักษิณ พ้นโทษ ภายใน ก.ค.นี้” โดยระบุว่า จากกรณีที่กรมราชทัณฑ์เปิดเผยขั้นตอนการพ้นโทษของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักโทษที่กำลังอยู่ระหว่างการพักโทษ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมคุมประพฤติ ซึ่งจะครบกำหนดโทษ 1 ปี ในวันที่ 22 ส.ค. 2567 นั้น เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ซึ่งเป็นวาระที่นักโทษทุกคนเฝ้ารอคอยพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป เหมือนกับวาระสำคัญที่ผ่านมา ครั้งเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2565 เคยมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พ.ศ. 2565 เป็นพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไปเช่นเดียวกัน

นายเทพไท ระบุอีกว่า แต่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เมื่อปี 2565 แตกต่างกับฉบับอื่นๆ ตรงที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ มีเงื่อนไขให้ผู้ได้รับสิทธิอภัยโทษว่าต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของโทษตามคำพิพากษา หรือไม่น้อยกว่า 8 ปี ถึงได้รับพระราชทานอภัยโทษได้ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าในปีนี้พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษจะใช้เงื่อนไขท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2565 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรณีของนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ แต่หากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป นายทักษิณก็เข้าเงื่อนไขทุกประการ ถ้าพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ประกาศในวันที่ 28 ก.ค. 2567 นายทักษิณก็จะพ้นโทษในวันที่ 29 ก.ค. 2567 ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอถึงวันที่ 22 ส.ค. 2567

นายเทพไท ระบุว่า ส่วนการจะเข้ารับใบบริสุทธิ์หรือไม่นั้น ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะใบบริสุทธิ์ของนักโทษ คือใบรับรองการผ่านการคุมขังจากเรือนจำ ที่ถูกจองจำครบกำหนดโทษแล้ว แต่นายทักษิณไม่เคยเข้าเรือนจำเลย ไม่จำเป็นต้องรับใบบริสุทธิ์ และถ้ามีความประสงค์จะรับ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จะนำไปให้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าได้โดยไม่ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นสถานะของนายทักษิณตอนนี้จะพ้นโทษเมื่อไหร่ ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะมีสถานะไม่ได้แตกต่างกัน ตอนนี้นายทักษิณใช้ชีวิตแบบบุคคลทั่วไป เหมือนไม่ได้อยู่ในฐานะการพักโทษเลย