เรียกได้ว่าเป็นกระแสฮือฮาสนั่นโซเชียลอยู่ในขณะนี้ หลังล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pattaramon Chomchumpol” ได้โพสต์เตือนภัย ประสบการณ์ตรงล้างจมูกผิดวิธี เกิดหูชั้นกลางอักเสบได้ พร้อมเผยวิธีล้างที่ถูกต้อง และสังเกตอาการผิดปกติ

โดยเจ้าของโพสต์ระบุข้อความว่า ล้างจมูกผิดวิธี ทำให้เกิดอันตราย นั่นคือ “เกิดหูชั้นกลางอักเสบ” ภาพที่เห็น คือ เยื่อแก้วหูที่ป่องแดง ภายในมีหนองขัง ของลูกชายสุดที่รักของหมอหูคอจมูกเด็กเอง เพื่อแชร์เป็นความรู้ และประสบการณ์ตรง ทั้งในฐานะ หมอหูคอจมูก เด็ก และมนุษย์แม่ที่ลูกป่วยบ่อยมากๆ เผื่อเป็นประโยชน์แก่แม่ๆ ในการดูแลเด็กๆ

นอกจากนี้ เมื่อมีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น เป็นหวัด ไซนัสอักเสบ และอะดีนอยด์อักเสบ จะมีโอกาสเกิดหูชั้นกลางอักเสบตามมาได้ แต่จะพบได้บ่อยขึ้นในเด็ก เพราะโดยกายวิภาคในโพรงจมูกที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ การล้างจมูกโดยเฉพาะในเด็ก แม้จะช่วยให้หายใจโล่ง บรรเทาอาการ ลดน้ำมูกลงคอ ลดอาการไอ เสมหะ นอนหลับได้ แต่ถ้าล้างผิดวิธี ผิดจังหวะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งในฐานะหมอ เจอเคสแบบนี้เยอะมากๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในฐานะแม่ แม้จะระวังเต็มที่ก็พลาดเกิดกับลูกจนได้

ล้างผิดวิธี คืออย่างไร?
1. ล้างแรงเกินไป การอัดน้ำเกลือเข้าแรงๆ อาจทำให้น้ำเกลือถูกผลักเข้าท่อปรับความดันที่ต่อกับหูชั้นกลาง แม้บางครั้งเราล้างไม่แรง แต่ต้องอย่าลืมว่า เวลาป่วย ในโพรงจมูกจะบวม เมื่อออกมาอีกข้างไม่ได้ก็มีโอกาสเข้าสู่หูชั้นกลางได้
2. ล้างผิดจังหวะ ในเด็กยิ่งเด็กเล็กๆ ที่ยังให้ความร่วมมือได้ไม่ดี การล้างในจังหวะที่เด็กหายใจ หรือกลืน จะส่งผลให้เกิดการสำลัก หรือเปิดโอกาสให้น้ำเกลือเข้าหูชั้นกลางได้

นอกจากนี้ ควรล้างอย่างไร?
1. เน้นปริมาณมากกว่าความแรง ใช้ปริมาณค่อยๆ ผลักน้ำเกลือเข้าในช่วงแรก ให้น้ำมูกที่เหนียวอ่อนนุ่มลงจะออกมาได้ โดยล้างไป เรื่อยๆ จนกว่าน้ำมูกจะออกมา
2. หากมีตัวช่วย คือ เครื่องดูดน้ำมูก (suction) ช่วยดูดน้ำเกลือ และน้ำมูกออกจากอีกข้างจะดีมากๆ ใกล้เคียงกับแบบที่โรงพยาบาลใช้ หาซื้อได้ใน shopee ราคาประมาณ 4,000 บาท
3. ในเด็กแนะนำให้โน้มตัวด้านหน้า และ ใช้วิธีออกเสียง “อา” เวลาจังหวะที่ใส่น้ำเกลือเข้าไป เพราะนั่นเป็นการให้เด็กกลั้นหายใจ และไม่กลืน ลดความเสี่ยงการสำลักและดันน้ำเกลือเข้าหูได้
4. ถ้าไม่มั่นใจเรื่องความแรง แนะนำใช้ syringe ขนาดเล็ก เพื่อลดความแรง เด็กเล็กใช้ 5ml เด็กโตใช้ 10ml ถ้าใช้ 20ml ได้ ก็ระวัง เรื่องความแรง

โดยจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกมีหูอักเสบ
– ส่วนมากเคสที่เกิดจากการล้างจมูก ให้ประวัติชัดเจน ลูกบ่นปวดหู หูอื้อ หลังล้างจมูก และเป็นอยู่ไม่หายไปทันที แนะนำพามาตรวจแต่เด็กเล็กที่บอกอาการไม่ได้ ให้สังเกตเด็กจับหูบ่อยๆ ถ้ากระสับกระส่ายนอนไม่ได้ หรือไข้สูง ต้องมาให้หมอตรวจหูดู หรือเด็กๆ ที่เป็นหวัดบ่อยๆ เรื้อรัง ส่วนมากมีปัญหาต่อมอะดีนอยด์อักเสบเรื้อรัง และกลุ่มนี้จะพบปัญหาของหูชั้นกลางอักเสบร่วมด้วยได้มากขึ้น บางราย พ่อแม่มาปรึกษาด้วย เรื่องลูกเรียกไม่หัน (ในใจหมอก็คิดว่า ลูกหมอก็เป็นตลอดนะ อย่าเพิ่งรีบคิดว่า ลูกกวนประสาทพ่อแม่นะคะ) ถ้าน้องเป็นหวัดเรื้อรัง ล้างจมูกบ่อยๆ ต้องพามาตรวจหู พบน้ำขังในหูชั้นกลางเรื้อรัง โดยเคสนี้ตรวจการได้ยินลดลงชัดเจนแน่นอน ซึ่งมีผลต่อการเรียน และผลระยะยาวแน่ๆ ถ้าไม่ได้รับการรักษา

การรักษาต้องทำอย่างไร?
– อันนี้จะเป็นหน้าที่หมอ เพราะการรักษาแตกต่างกันตามความรุนแรง และภูมิต้านทานของผู้ป่วย รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย
ทั้งสังเกตอาการ ให้ยาปฏิชีวะนะ รวมถึงอาจจะต้องผ่าตัดร่วมด้วย พ่อแม่อาจช่วยระวังเรื่องการล้างจมูก และสังเกตอาการ ให้ตระหนักถึงเรื่องหูของเด็กๆ เพราะบางรายถึงขั้นรุนแรง หนองแตกทะลักออกมาได้ หรือต้องรักษาด้วยการผ่าตัดตามมา ส่วนลูกชายหมอ มีต่อมอะดีนอยด์โต และอักเสบเรื้อรัง เฉียบพลันเป็นๆ หายๆ อยู่เดิม ล้างจมูกทุกวัน ต้องระวังมากๆ แต่วันนั้นจมูกบวมมาก น้ำเกลือผลักออกไปที่หูชั้นกลางแทน ลูกอดทน และไม่ค่อยบ่นอะไร แต่แม่หมอสังเกตเห็น ลูกซึมลง ดูมึนงง บ่นปวดหัวหน่อยๆ และเป็นไข้เลยนำมาตรวจทันที และถือเป็นเคสที่อาจจะต้องจบด้วยการผ่าตัด ต่อมอะดีนอยด์และหูชั้นกลาง

ขอบคุณข้อมูล : Pattaramon Chomchumpol