เมื่อวันที่ 17 ก.ค67 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ…. วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้ใช้เวลาอภิปรายกว่า 10 ชั่วโมง
กระทั่งเวลา 19.40 น. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม กดออกเรียกสมาชิกเพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุม และลงมติ ผลปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี2567 วงเงิน 1.22แสนล้านบาท ด้วยคะแนน 297 ต่อ164 งดออกเสียงและไม่ออกเสียง ไม่มี

จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญฯ ขึ้นมาศึกษาจำนวน 32 คน โดยมีสัดส่วน ประกอบไปด้วย สัดส่วน คณะรัฐมนตรี จำนวน 8 คน สส. จำนวน 24 คน ตามสัดส่วนพรรคการเมือง ดังนี้ พรรคเพื่อไทย 7คน พรรคก้าวไกล 7 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคพลังพลังประชารัฐ 2คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 คน พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1คน และพรรคประชาชาติ 1 คน กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 2 วัน
สำหรับระยะเวลาพิจารณาพิจารณาของ กมธ.วิสามัญฯ จำนวน 5 วัน และนำมาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระ 2-3 ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ โดย กมธ. ได้นัดประชุม ครั้งแรก ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เวลา 09.00น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการลงมติเห็นชอบดังกล่าวนั้น พบว่า สส.ฝั่งรัฐบาลที่มี 314 เสียงนั้น ลงมติไม่ครบ ขาดการออกเสียงถึง 17 คน จากนั้น ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดประชุมในเวลา 19.57 น.