จากกรณี เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว3” โพสข้อความ “ศักดิ์ระพีชีวิตบัด…ลำบากมาก !!! ด่วนมากครับ ไม่งั้นผมถูกยกหม้อ หลายปีที่ผ่านมาผมแทบไม่เคยขอค่าไฟเลยถ้าไม่ลำบากจริงๆ เดือนนี้บ้านนึงโดนยก บ้านนี้ก็จะโดนตาม ช่วยด้วยครับ ช่วงนี่ชีวิตผมล้มจริงๆ วันนี้ต้องจ่ายค่าไฟค้างสองเดือน 14,400 กว่าบาท มายกหม้อแน่ครับ ช่วยบ้านหมาพิการไทรน้อยด้วยเถอะครับหรือช่วยตามกำลังได้ครับ…ลืมบอกครับ ในภาพคือรถใหม่เพิ่งถอยมาครับ…อย่าลืมช่วยผมกับน้องหมาแมว 300-400 ชีวิตด้วยครับ”

ต่อมาทางเพจเฟซบุ๊ค Sakrapee Pathomtodsaporn ได้มีการโพสต์ชี้แจงรายละเอียดดังกล่าวว่า “ผมขอชีแจงเรืองราวทีพูดถึงผมนะครับ ไม่ว่าจะไฟหรือรถ 1.บ้านหมาพิการที่ไทรน้อย แต่พื้นที่คาบเกี่ยวกับบางใหญ่ ผมเริ่มเช่าเมื่อ2เดือนครึ่งที่ผ่านมา ต่อจาก สมาคมพิทักษ์ เข้ามาในสภาพบ้านที่ทรุดโทรม เดือนที่ผ่านมา ผมปรับปรุง และ สร้างคอกหมาพิการ มีการใช้ไฟฟ้าสูง บ้านหลังนี้มีพิการ และไม่พิการ ร้อยกว่าชีวิต ใช้ไฟต่อวัน คร่าวๆครับหุงข้าว5หม้อพัดลม8ตัวกลางวันกลางคืนลดเหลือ4ตัวเปิดไฟไล่ยุงเวลาล้างคอกต้องเปิดปั้มน้ำ วันละสองครั้ง ค่าไฟฟ้ามีสองเดือน 4/6/67 6508.28 บาท 4/7/67 7828.26 บาท วันนี้ จ่ายยอดเก่าไปก่อนครับ 2.เรื่องรถ รถคันนี้เปนรถของที่ร้าน ออกมาสองเดือนก่อนเป็นเงินผ่อน รถสภาพ7ปีแล้วครับ เอาไว้รับงานเหมา งานนอก ของร้านครับ รายละเอียดลงให้แล้วครับ

เกี่้ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายศักดิ์ระพี ปฐมทศพร หรือ “แจ๊ค” อายุ 41 ปี ก่อนได้รับการเปิดเผยว่า ตนใช้บ้านพักเลขที่ 49/8 หมู่ 7 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เปิดเป็นบ้านรับเลี้ยงสุนัขจรจัดและพิการ โดยใช้ชื่อว่า “บ้านหมาพิการศักดิ์ระพีเพื่อสัตว์ด้อยโอกาส” ปัจจุบันที่บ้านพักแห่งนี้มีสุนัขจำนวน 136 ตัว เป็นสุนัขปกติ 90 ตัว สุนัขพิการ 30 ตัวและสุนัขขนาดเล็กที่แยกเลี้ยงไว้ในบ้านอีก 16 ตัว

จากกรณีที่ตนโพสข้อความในลักษณะขอความช่วยเหลือ ในเรื่องของค่าไฟที่ยังไม่ได้ชำระและค้างจ่าย 2 เดือน จำนวนเงิน 14,400 บาท นั้น ตนขอชี้แจงดังนี้ ตนเพิ่งมาเช่าบ้านหลังนี้อยู่เมื่อประมาณช่วงหลังสงกรานต์ โดยเช่าบ้านหลังนี้เดือนละ 5,000 บาท ซึ่งเมื่อก่อนนี้บ้านหลังนี้เป็นสมาคมพิทักษ์สัตว์มาก่อน ในช่วงเดือนแรกคาบเกี่ยวตอนที่ย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ จ่ายค่าไฟไปแล้ว 2,197 บาท ในช่วงระหว่างที่ตนและคนดูแลสุนัขได้มาอยู่ที่นี้ร่วม 2 เดือน มีผู้ที่ติดต่อขอความช่วยเหลือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขออาหารให้สุนัขจรจัดที่อยู่ทั่วประเทศ ค่ารักษาพยาบาลที่ตนต้องจ่าย เวลานำสุนัขเข้ารับการรักษา หรือเมื่อมีผู้ติดต่อเข้ามาขอหลังจากที่นำสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือถูกทารุณ ค่ายารักษาโรค วัคซีนต่าง ๆ ค่าแรงของคนดูแลอีกวันละ 400 บาท ซึ่งที่นี้มีคนดูแลอยู่ 3 คน และยังมีรายจ่ายปลีกย่อยอื่น ๆ อีก

อีกทั้งตนยังมีบ้านพักที่เปิดรับเลี้ยงสุนัขจรจัดที่ จ.ชลบุรี มีสุนัขอีกกว่า 300 ตัว ที่ตนต้องดูแลรับผิดชอบ และยังมีที่ต่างจังหวัดอีกหลายแห่งเช่น ร้อยเอ็ด นครสวรรค์ ฯลฯ แต่เฉพาะที่บ้านหมาพิการศักดิ์ระพีเพื่อสัตว์ด้อยโอกาสที่นนทบุรี มีรายจ่ายต่อเดือนค่อนข้างสูง ตกเฉลี่ยเดือนละเกือบ 300,000 บาท โดยเฉพาะค่าอาหารต่อวันใช้ข้าว 5 กระสอบ,โครงไก่บ วันละ20 กก. ตับบด 2 กก.และอาหารเม็ดอีก 2 กก. ค่าใช่จ่ายเฉพาะอาหารตกวันละ 2,000 บาท ไหนจะค่าพาไปรักษาค่ายาต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ตนยอมรับว่ารายได้ไม่พอใช้ นอกจากจะขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว ตนยังมีขายหมู-เนื้อแดดเดียวในเพจอีกด้วย

ส่วนเรื่องค่าไฟที่ถูกกล่าวหาว่าตนค้างค่าไฟหมื่นกว่าบาทนั้น ตนขออธิบายว่าเป็นยอดเงินของค่าไฟ 2 เดือนไม่ใช่เดือนเดียว เดือนแรกจำนวน 6,508 บาท แต่ไปจ่ายมาแล้วเมื่อวานนี้ ตอนนี้ค้างแค่เดือนเดียว 7,828 บาท ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้ดูแลสุนัขจรจัดก็มีแค่หม้อข้าวใบใหญ่ 2 หม้อ ที่ใช้หุงแบบหมุนวนคือพอข้าวสุกแล้วก็ตักออกมาใส่ถาดแล้วหุงใหม่ เพราะหม้อเรามีไม่พอ พัดลม 8 ตัว แต่ไม่ได้เปิดทั้งวันใช้เปิดสลับกันไปเช้ากับกลางคืน ปั้มน้ำตัวเดียว เครื่องซักผ้า 2 เครื่องแล้วก็เปิดไฟไล่ยุงให้สุนัขตอนกลางคืนเพราะที่นี้ยุงเยอะ ส่วนบ้านพักคนดูแลก็ใช้เป็นพัดลมไม่มีแอร์ ตนก็ไม่รู้ว่าค่าไฟเฉลี่ยเดือนละเท่านี้ ปกติหรือแพงไปรึเปล่า ตนยินดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ อยากให้เขาเข้ามาดูที่บ้านมาดูความเป็นอยู่ ตนยินดีเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดทั้งยอดบริจาคและการใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ถ้าบุคคลทั่วไปอยากจะขอตรวจสอบตนไม่ขอเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้.

นายศักดิ์ระพี กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่มีการนำรูปรถยี่ห้อฮุนได รุ่น เอช 1 ไปโพสลงโซเชียลว่า เป็นรถที่ตนเพิ่งจะซื้อมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เป็นรถมืองสอง และเพิ่งจะผ่อนไปได้แค่ 2 งวด ตนผ่อนเดือนละ 20,000 กว่าบาท ที่ออกมาเพื่อเอาไว้ใช้งาน ใช้ขนของเวลามีคนเหมาก๊วยเตี๋ยวที่ร้านไปลงตามงานต่าง ๆ ถ้าถามว่า “…ทำไมไม่ซื้อรถกระบะหรือรถที่ราคาถูกกว่านี้…” ตนขอตอบว่า รถกระบะเวลาขนของแล้วของหลังรถมันชอบปลิว และราคารถคันนี้ก็ไม่ห่างกันมากกับรถกระบะ

ส่วนรูปภาพที่แฟนตนกำลังรับเงิน ขอยืนยันว่ารูปที่เห็นไม่ใช่มือของตนอย่างแน่นอน แฟนตนเขาก็ทำไปตามประสาคนเล่นโซเชียล คืออัพรูปลงเพื่อให้กลุ่มเพื่อนได้เห็นให้เป็นกระแส ถ้าถามว่าแฟนมีเงินขนาดนั้นทำไมไม่มาช่วยดูแลในส่วนของบ้านพักที่นี้ ตนขอบอกว่าที่นี้ตนเป็นคนริเริ่มเป็นคนทำด้วยความสงสาร อยากช่วยเหลือสุนัขจรจัดเป็นความรับผิดชอบของตน ตอนนี้รู้สึกท้อใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตนทำมาตลอดจะทำให้คนอื่นคิดกับตนแบบนี้ ตอนแรกตนคิดว่าจะไปจัดตั้งเป็นมูลนิธิ แต่ติดปัญหาเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงถึงเกือบ 500,000 บาท จึงระงับเอาไว้ก่อน

ทางด้าน น.ส.ศิริพร สุจริต หรือพี่ปุ๊ก อายุ 45 ปี คนดูแลบ้านพักหลังดังกล่าว เล่าว่า เมื่อก่อนตนเคยรับเลี้ยงและดูแลสุนัขจรจัดแบบนี้ แต่เลี้ยงแค่ 10 กว่าตัวเท่านั้น ต่อมาที่เก่าเจ้าของเขาไม่ให้เช่าต่อ ตนเลยติดต่อคุณแจ็คเพื่อขอตวามช่วยเหลือ คุณแจ็คจึงได้ให้ตนมาอยู่ที่นี้คอยดูแลสุนัขจรจัดให้เขา ตนมาอยู่ที่นี้แรก ๆ มีคนขอความช่วยเหลือวันนึงกว่า 10 ราย มีทั้งมาฝากให้ช่วยเลี้ยง และแจ้งมาว่าพบสุนัขจรจัดตามที่ต่าง ๆ คุณแจ็คก็ไปรับมาพาไปรักษาและพากลับมาดูแลต่อที่นี้ รวมไปถึงต่างจังหวัดที่ขอความช่วยเหลือเข้ามาทั้งค่ารักษาพยายาล ค่าอาหาร ค่ายา ฯลฯ จนตอนนี้ต้องขอยกเลิกการให้ความช่วยเหลือไปก่อน เพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย.