เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่ปรึกษาประจำคณะกมธ.การแรงงาน ในฐานะ อนุกมธ.ตรวจสอบและติดตามปัญหาแรงงาน แถลงถึงข้อห่วงใยของคณะกมธ. การแรงงาน ถึงปัญหาแรงงานต่างด้าวและการบริหารกองทุนประกันสังคม

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ข้อห่วงใยของคณะกมธ. การแรงงานมี 2 กรณี  คือ กรณีที่  1 คือ การบริหารเงินกองทุนประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคม ที่มีจำนวนมาก แต่มีผลตอบแทนการลงทุนที่น้อย เมื่อคณะอนุกมธ. ขอข้อมูลการบริหารเงินกองทุนประกันสังคม แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการส่งเอกสารหรือเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด คณะอนุกมธ. มีความห่วงใยว่า การบริหารเงินกองทุนประกันสังคม จะเกิดการขาดทุนเพราะนำไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความผันผวนมาก  และจำนวนแรงงานมีน้อยลง เนื่องจาก ปี พ.ศ. 2565 ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แล้ว 

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ข้อห่วงใยของคณะ กมธ.การแรงงานกรณีที่ 2. คือ กรมการจัดหางานให้เอกชนประมูลงาน เพื่อจัดทำใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว จำนวน 7,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทที่ประมูลการทำบัตรให้แรงงานต่างด้าว จำนวน 15 ล้านใบ มีผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าว เป็นกรรมการบริหารของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับหุ้น EA ของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด มหาชน ที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมทำการทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์-อุปกรณ์ซอฟต์แวร์ ซึ่ง คณะอนุกมธ. เกรงว่า จะมีความไม่โปร่งใสทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย ทั้งนี้คณะกมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 กรณีดังกล่าวเข้าร่วมประชุมอีกครั้ง