การแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์อาเซียน ที่เมืองสุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย “ช้างศึกหนุ่ม” ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม C โปรแกรมในรอบแรก วันที่ 19 ก.ค. 67 เวลา 19.30 น. พบ สิงคโปร์ ที่เกโรลา 10 โนเวมเบอร์ สเตเดี้ยม, วันที่ 22 ก.ค. 67 เวลา 15.00 น. พบ บรูไน ที่ เกโรลา 10 โนเวมเบอร์ สเตเดี้ยม และวันที่ 25 ก.ค. 67 เวลา 15.00 น. พบ มาเลเซีย ที่ จีบีที สเตเดี้ยม แชมป์กลุ่ม 3 กลุ่ม เข้ารอบทันที ส่วนอันดับ 2 คัด 1 ทีม ไปรอบตัดเชือก ทุกนัดถ่ายทอดสด AIS PLAY
รายการนี้ ทีมชาติไทย เป็นแชมป์มากสุด 5 สมัย แต่ก็ไม่ได้เข้าชิงชนะเลิศ ตลอดการจัด 3 ครั้งหลังสุด รอแชมป์มา 7 ปี ทีมชุดนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มอบให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บริหารจัดการ เดินเครื่องตั้งแต่ปลายปี 2565 มี เอเมอร์สัน เปไรรา เป็นโค้ช และ “หนุน” ชนน์ชนก ชิดชอบ เป็นผู้จัดการทีม
ล่าสุด มีการประชุมผู้จัดการทีม โดยสาระสำคัญ
นัดแรกทีมไทยจะสวมชุดสีน้ำเงิน พบ สิงคโปร์
เปลี่ยนตัวได้ 5 คน และเปลี่ยนได้ 3 ครั้งไม่รวมช่วงพักครึ่ง
เทคโนโลยีวีเออาร์ ไม่ใช้ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่จะใช้ในรอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศ
นักเตะที่โดนใบแดง จะถูกแบนจากการแข่งขันในเกมถัดไป 1 นัด หรือหากได้รับใบเหลืองครบ 2 ใบ จะถูกแบนในเกมนัดต่อไปทันที และจะมีการล้างใบเหลืองหลังจบรอบรองชนะเลิศ
รอบแบ่งกลุ่ม หากมีทีมที่มีแต้มเท่ากัน จะดูที่ เฮด ทู เฮด ก่อนผลต่างประตูได้เสีย
ขณะเดียวกัน นายชนน์ชนก ชิดชอบ ผู้จัดการทีม ได้ให้สัมภาษณ์เพจ FA Thailand Youth League ถึงการมาดูแลทีมชุด 19 ปี ชุดนี้ว่า ความท้าทายมีเยอะ แรงกดดัน และความคาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่เข้ามาทำทีมไม่เหมือนปกติ แต่พยายามมุ่งมั่นที่สุด ได้ดูนักเตะจาก อคาเดมี่ต่างๆ เรียกคนที่โชว์ฟอร์มดีๆ เป็นความท้าทายในการสเกาต์ ส่วนเรื่องระเบียบวินัย พยายามไม่เข้มงวดเกินไป แม้นักเตะบุรีรัมย์ อาจจะชินในความเข้มงวด แต่อาจจะผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุด แต่หลายอย่างก็คงไว้ เช่นต้องเก็บโรศัพท์มือถือ ไอแพด หลัง 22.00 น. เพื่อให้ได้พักผ่อนเต็มที่ รวมทั้งเอาเทคโนโลยีหลายอย่างมาใช้ เช่น นักเตะจะมียูสเซอร์ของตัวเอง ซ้อมเสร็จแล้วคลิกดูตัวเองได้ อะไรที่ไม่ดีก็มาปรึกษา
ผู้จัดการทีมคนหนึ่ม กล่าวต่อว่า ส่วนตัวนั้นกดดันอยู่แล้ว ยิ่งมาทำทีมชาติแรงกดดันเยอะหน่อย ไม่ว่าตนเอง ทีมงาน หรือนักเตะ จะทำเต็มที่ บอกนักเตะว่าเป้าหมายคือทีมชุดใหญ่ ต้องไปให้ได้ บอกว่าแรงกดดันมีแน่ กับผู้เล่นชุดนี้ ส่วนตัวถือว่าพอใจพอสมควร อาจไม่ได้ทุกคนที่ต้องการ เพราะบางคนติดภารกิจ หรือไม่สะดวก แต่ที่เอามาดูที่ บุรีรัมย์ น่าจะมี 2,300 คน ไม่ว่าจากโรงเรียนกีฬา ทีมใหญ่-เล็ก หรือลูกครึ่ง สเกาติ้งยาวนาน ผ่านหลายโค้ช เชื่อว่านี่เป็นทีมที่ดีที่สุดในชั่วโมงนี้
“เราไม่ได้แชมป์ 7 ปี เป็นชาลเลนจ์ที่ใหญ่มาก มีแรงกดดัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำไม่ได้ เชื่อว่าทำได้ ทุกคนคาดหวังจะได้แชมป์ บอลลูกกลมๆ การันตีไม่ได้ แต่การันตีได้ว่าทุกคนจะสู้อย่างรากเลือด เพื่อผลงานดีที่สุด เป้าหมายคืออยากเป็นแชมป์” นายชนน์ชนก กล่าว.
