เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ชุดพญาเสือ นำโดย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ นำโดย พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม ร่วมกันวางแผนล่อซื้อก่อนสามารถจับกุม นายกรฤทธิ์ อายุ 49 ปี และนางมนัส อายุ 48 ปี สองสามีภรรยา ที่ลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย ที่บริเวณสี่แยกวงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ พร้อมของกลางลูกเสือ เพศผู้และเพศเมีย จำนวน 1 คู่ อายุประมาณ 2-3 เดือน ที่ถูกขังอยู่ในกรงวางอยู่บนเบาะด้านหลังรถเบนซ์สปอร์ตสีเทา หมายเลขทะเบียน ฐฐ 7245 กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง งาช้างไทย กิ่งใหญ่ 2 คู่ น้ำหนักคู่ละ 50 กก. ราคาจำหน่าย กก.ละ 2 หมื่นบาท มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงาช้างแอฟริกา 26 ชิ้น น้ำหนัก 49.8 กก. มูลค่านับล้านบาทอีกด้วย ถูกบรรจุไว้ในถุงปุ๋ยวางอยู่บริเวณห้องเก็บสัมภาระด้านหลังเบาะรถ

ซึ่งการล่อซื้อและจับกุมในครั้งนี้ ชุดพญาเสือและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม มีการประชุมวางแผนมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วงเช้า มีการวางทีมชุดจับกุม วางตำแหน่งอย่างเป็นระบบ มีการส่งพิกัดในการล่อซื้อให้คนร้ายทราบ หลังจากคนร้ายได้ทำการโพสต์ขายลูกเสือและงาช้างในกลุ่มไลน์เฉพาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการออกไปตรวจสอบพื้นที่นัดหมายก่อนเพื่อวางแผนล่อซื้อ และมีการประเมินสถานการณ์อย่างรัดกุม เกรงว่าคนร้ายจะมีอาวุธ รวมทั้งชุดพญาเสือยังได้เตรียมนมไว้ให้ลูกเสือกินอีกด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการการเจรจาล่อซื้อลูกเสือ 8 ตัว ตัวใหญ่ 2 ตัว ตัวเล็ก 6 ตัว กับตัวการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย และมีชื่อเสียงอยู่ในแวดวงดังกล่าวมานาน ซึ่งสายลับมีการสืบและทำการล่อซื้ออย่างรวดเร็วด้วยความแยบยล จนคนร้ายตายใจและยอมนำสัตว์ป่าและของกลางออกมาจากพื้นที่ จ.มุกดาหาร มาส่งให้ แต่คาดว่าระหว่างนั้นตัวการใหญ่เกิดไหวตัวทันและเปลี่ยนใจให้สองสามีภรรยานำลูกเสือ 2 ตัว จากพื้นที่อื่นมาส่งให้ พร้อมงาช้างส่วนหนึ่งแทน ก่อนถูกจับกุมตัวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ชุดพญาเสือ ได้นำตัวสองสามีภรรยาไปทำการสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม ถึงที่มาที่ไปของของกลาง ในเบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธว่าลูกเสือไม่ใช่ของตนเอง ถูกฝากมาอีกทีพร้อมกับงาช้างแอฟริกา ส่วนงาช้างไทยมีหลักฐานการได้มา แต่เขาไม่ได้ให้หลักฐานมา และยังไม่ยอมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่จะต้องใช้เวลาในการสอบสวนเพื่อขยายผลและติดตามจับตัวขบวนการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป ในเบื้องต้นได้นำตัวส่ง ร.ต.อ.สามารถ คล่องดี ร้อยเวร สภ.ดม เพื่อดำเนินคดีในข้อหาครอบครองสัตว์ป่าและค้าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต่อไป

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า เราได้ติดตามมาเครือข่ายนี้มานาน เป็นเครือข่ายใหญ่มาก ไม่ใช่แค่นี้ ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เราจับผู้ต้องหาได้เท่านั้น เสือก็ต้องรอด ของกลางตรงนี้น้อยมาก ไม่ใช่มีแค่เท่าที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมงานที่มีความเข้มแข็งและเสียสละพอสมควร ส่วนลูกเสืออีก 4 ตัว เรากำลังติดตามหาพิกัดอยู่เพื่อเข้าจับกุมและช่วยเหลือลูกเสือต่อไป สำหรับลูกเสือ 2 ตัวดังกล่าว ก็ต้องตรวจดูสุขภาพและนำไปดูแลตามขั้นตอนต่อไป สำหรับงาช้างไทย 2 คู่ ผู้ถูกกล่าวหาบอกว่ามีหลักฐาน แต่เขาไม่ได้ให้มา อาจจะขายลอยมาอย่างไรก็ค่อยพิสูจน์กัน ซึ่งพบว่ามีสติกเกอร์ติดไว้ที่งาช้าง โดยจะต้องนำไปตรวจสอบว่าเป็นสติกเกอร์ที่ถูกต้อง มีที่มาที่ไปในการครอบครองหรือไม่ หรือเป็นสติกเกอร์ที่ปลอมขึ้นมา เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมต่อผู้ที่เรากล่าวหา