จากกรณี นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แม่บ้านคนสนิท มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา จนทำให้เป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศ ขณะเดียวกันปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ได้สร้างความกังขาให้กับสังคมเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า “ชาวต่างชาติ” สามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่

ทั้งนี้ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เรียกร้องให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกี่ยวกับความถูกต้องในการถือครองทรัพย์สินรวมถึงการดำเนินกิจการธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพื่อถือครองทรัพย์สินโดยเฉพาะที่ดินในประเทศไทย รวมถึงให้มีการตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าหรูของชาวต่างชาติบนเกาะสมุย ต่อมา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 เข้าตรวจสืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ สุดท้ายได้นำไปสู่การตรวจสอบการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่าหรู โดยเฉพาะบนภูเขาหลายแหล่งในเกาะสมุย จนทำให้เริ่มมีการแจ้งข้อกล่าวหาบรรดาผู้ประกอบการ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ว่าที่ ร.ท.สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับคำสั่งจาก ผวจ.สุราษฎร์ธานี ให้ทำการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง ตามมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินแทน “คนต่างด้าว” พื้นที่ อ.เกาะสมุย เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุการเสียชีวิตของ นางแคทเทอร์รีน โดยคณะกรรมการประกอบด้วย ที่ดินจังหวัด, พาณิชย์จว.สุราษฎร์ธานี, นายอำเภอเกาะสมุย, นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย และที่ดิน จว.สุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย จะเข้าดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงประเด็นว่าการได้มาซึ่งที่ดิน และการถือครองที่ดินของชาวต่างด้าวเป็นไปถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่, การจดทะเบียนนิติบุคคลของผู้เสียชีวิต เป็นในลักษณะตัวแทนอำพรางหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการประกอบธุรกิจวิลล่าให้เช่าว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.โรงแรมหรือไม่ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริง

เบื้องต้นได้ผลสรุปว่า ผู้เสียชีวิต คือ นางแคทเทอร์รีน จูแอลว์ โรแลนด์ เจอร์เมน เดลาโคท หรือชื่อ นางแคทเทอร์รีน จูแอลว์ โรแลนด์ เจอร์เมน เดอลาโคท, นางแคทเธอรีน โจ โรแล็นด์ เจอร์เมน ดิลาโคท เป็นกรรมการบริษัท 2 บริษัท คือ บริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2555 วัตถุประสงค์ ขณะจดทะเบียนประกอบกิจการให้เช่าที่พัก รีสอร์ท บังกะโล และบ้านพักตากอากาศ และบริษัท แม็กชิเคท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2551 วัตถุประสงค์ขณะจดทะเบียนประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์ โดยทั้ง 2 บริษัทมีชื่อนางแคทเทอร์รีน เป็นกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงมีเหตุสงสัยว่า บริษัททั้ง 2 ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว และมีการฝ่าฝืนกฎหมายโดยการถือครองที่ดินไว้แทนคนต่างด้าวโดยมิชอบ ในลักษณะตัวแทนอำพราง (นอมินี)

“..ขณะนี้คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ สภาพและฐานะของเจ้าของที่ดิน, รวมถึงรวบรวมเอกสาร งบดุลของนิติบุคคล ตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของการได้มาซึ่งเงินทุนของผู้ถือหุ้นชาวไทยอีก 2 ราย โดยภายในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ สรุปรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้น ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป…” ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ฯ กล่าวทิ้งท้าย