“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี เตรียมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่เมืองสุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย โดยรอบแรกนั้น อยู่ในกลุ่ม C โปรแกรมวันที่ 19 ก.ค. 67 เวลา 19.30 น. พบ สิงคโปร์, วันที่ 22 ก.ค. 67 เวลา 15.00 น. พบ บรูไน และวันที่ 25 ก.ค. 67 เวลา 15.00 น. พบ มาเลเซีย รอบแรกคัด 3 แชมป์กลุ่ม กับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด เข้ารอบรองชนะเลิศ

ทีมชาติไทยชุดนี้ มี ชนน์ชนก ชิดชอบ เป็นผู้จัดการทีม พร้อมด้วย เอเมอร์สัน เปไรรา อดีตโค้ชบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะ มีอยู่ในสังกัด บุรีรัมย์ ถึง 16 คน หรือ 2 ใน 3 ของทีม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมชุดนี้ มาจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นนายกสมาคม ได้เปิดให้สโมสรสมาชิก เสนอแผนงาน เพื่อยกระดับฟุตบอลไทย ทุกรุ่นอายุ ก่อนที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมาร่วมมือ แถลงข่าวกันไปตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 65 ตอนนั้นเป็นชุด 17 ปี วางแผนยาว สู้ศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 20 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2025 ที่จีน เป้าหมายท็อปเท็น โดยคัดนักบอลทั่วประเทศ ที่เกิดปี 2548 เก็บตัวซ้อมต่อเนื่องที่บุรีรัมย์ เริ่มโครงการทันทีตั้งแต่แถลงข่าว บุรีรัมย์ รับผิดชอบ ดูแลทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องของทีมงาน สตาฟฟ์โค้ช ซึ่งจากการที่เก็บตัว และประเมินผลงานระยะยาว และแคมป์อยู่ที่ บุรีรัมย์ ทำให้น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้นักเตะส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดบุรีรัมย์ เพราะนักเตะเองหากสังกัดสโมสรอื่น ก็จะมีข้อจำกัดในการมาเก็บตัวระยะยาว ที่บุรีรัมย์ อคาเดมี่

อ่านข่าว : ถ้าส.บอลเปลี่ยนขั้ว! ‘เนวิน’ เผยพร้อมปิดโครงการ ‘ช้างศึกสายฟ้า’

ขณะเดียวกัน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ส่ง “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน สภากรรมการและโฆษกสมาคมฯ ไปชมการอุ่นเครื่อง ที่พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่สนามภายในบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แคมป์บางบ่อ

หลังชมเกมของนักเตะชุด 19 ปีไทย ปิยะพงษ์ กล่าวว่า “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ มอบนโยบายพัฒนาฟุตบอลไทย ต้องเป็นไปทั้งระบบ เพียงแต่ว่าในรุ่น 20 ปี นั้น ทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รับโอกาสในการพัฒนาต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ แล้วตอนนี้มาสานต่อ ซึ่ง นายกสมาคมบอลไทย ส่งตนเองมาดูการพัฒนาเด็กต่อเนื่องจากรุ่น 19 เป็น 20 ปี เป็นอย่างไร

“มาเห็นแล้วก็ต้องชื่นชม การบริหารจัดการดีเยี่ยมเหลือเกิน เด็กมีพัฒนา หลายคนมีทักษะที่ดี ต่อยอดไปในอนาคตได้”

ปิยะพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ฟอร์มนักเตะถือว่ามีทิศทางพัฒนาที่ดี แต่ตนดูครั้งแรกยังไม่เห็นอะไรชัดเจน แต่ศึกอาเซียน 3 นัด คงจะเห็นอะไรมากขึ้น อยากเชิญชาวไทยให้กำลังใจทีมชุดนี้ ว่าพัฒนาในรูปแบบไหน ได้เอามาเป็นการแก้ไข เป้าหมายคิดว่า บุรีรัมย์ เปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพเต็มที่ เป็นเวทีที่พัฒนาต่อยอดได้

“ชุดนี้สำคัญสุด คือความเข้าใจเกม ความฟิตโอเคดีเลย ทักษะฟุตบอลดี แต่การร่วมเล่นการเข้าใจการพัฒนาสำคัญมาก คิดว่าโค้ชเน้นการร่วมเล่นเป็นหลัก” ปิยะพงษ์ กล่าว.