เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 14 ก.ค.ร.ต.อ.พลังกร ศิรินิกร รอง สวป.สภ.หนองหาน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ปีนรั้วเข้ามาในบ้านประชาชน โดยมีผู้หญิงอยู่ในบ้านคนเดียว มีการถอดเสื้อผ้าเปลือยกาย แล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องเก็บของ เบื้องต้นมีผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ ด้วยการใช้เชือกและโซ่เหล็กมัดมือและเท้า เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 88 บ้านนิคมหนองตาล ม.14 ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ นำรถกระบะตราโล่ ออกมาตรวจสอบและระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด พบ น.ส.สุนทรี อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน และญาติพี่น้องที่ทราบข่าว มาสอบถามเรื่องราว และรอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ โดยมีกล้องวงจรปิดภายในบ้านบันทึกภาพ ขณะคนร้ายเข้ามาก่อเหตุเอาไว้ได้ทั้งหมด ทราบชื่อคนร้ายภายหลังคือ นายไสว โหนดไทสง หรือไหม อายุ 54 ปี ชาว บ.สะคาม ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งขณะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง นายไหมพยายามจะหลบหนีประมาณ 2 ครั้ง นายรณชัย ศรีนราสิทธิ์ อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้านนิคมหนองตาล นายณัฐกิจ พันพินิจ อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ 

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง นายไหมได้แสดงอาการเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง แข้งขาอ่อน ไม่มีเรี่ยวแรงเดิน จากนั้นเจ้าหน้าที่พยายามจะสวมใส่เสื้อผ้าให้นายไหม แต่ยังแสดงอาการเมาไม่ได้สติ กว่าจะใส่เสื้อผ้าให้ได้ต้องทำด้วยความทุลักทุเล ซึ่งขณะสอบถามนายไหม ให้การด้วยอาการสับสนว่า “ตนเมาเหล้าขาว 1 ขวด กินกับเพื่อน 1 คน เข้ามาบ้านหลังนี้โดยไม่รู้ว่าเข้ามาทำไม และไม่รู้ว่าถอดเสื้อผ้าทำไม” และระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวไปขึ้นหลังรถกระบะ กลับพบว่ามือเปื้อนอุจจาระนายไหม จนต้องรีบไปล้างมือภายในบ้าน

น.ส.สุนทรี เล่าว่า ช่วงนี้ตนอยู่บ้านคนเดียว สามีไม่อยู่ ลูกไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุกำลังนิ่งกินข้าวอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนหลังบ้าน แล้วได้ยินเสียงหมาเห่าดังและต่อเนื่อง ตนจึงรีบเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็เห็นผู้ชายปีนรั้วเข้ามาในบ้าน ตนจึงรีบไปร้องเรียกญาติข้างบ้านให้มาช่วยเหลือ และหลบอยู่บริเวณหลังบ้าน ระหว่างนั้นได้เปิดกล้องวงจรปิดดูตลอดเวลา จนเห็นว่าคนร้ายได้ถอดเสื้อผ้าบริเวณบันไดขึ้นบ้าน ตอนนั้นตนก็ได้ร้องเสียงดัง คนร้ายจึงเข้าไปหลบในห้องเก็บของ ตนจึงรีบไปล็อกประตูห้องเอาไว้ จนกระทั่งมีคนมาช่วย

“เมื่อเห็นหน้าตนก็รู้ว่าเขาเคยเป็นคนงานมาสร้างบ้านหลังนี้ให้เมื่อปี 2560 มาช่วยสร้างบ้านกับผู้รับเหมา และมาทำช่วยสร้างรั้วให้ ก่อนหน้านี้ก็เขาก็ไม่เคยแสดงอาการหื่นแบบนี้ หรือไม่เคยมาพูดคุยเชิงชู้สาวด้วยเลย เขาเป็นคนหมู่บ้านใกล้กัน ไม่นึกว่าเขาจะกล้ามาก่อเหตุแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนตกใจมากจนขาสั่น”

นายณัฐกิจ พันพินิจ อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฯ เล่าว่า มีคนร้ายขอความช่วยเหลือว่ามีเหตุคนร้ายปีนเข้ามาในบ้าน ตนจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเพื่อนบ้านให้ช่วยกันออกมาระงับเหตุ จากนั้นจึงรีบออกมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงได้พบว่าคนร้ายได้ล็อกประตูห้องเก็บของ จึงพากันใช้ไฟฉายส่องดูตามหน้าต่างรอบห้อง จนเห็นคนร้ายนอนแอบอยู่ใต้เตียงในห้อง เมื่อคนร้ายเห็นว่ามีคนมาช่วยเยอะ จึงยอมเปิดประตูออกมา

“จากนั้นพวกตนจึงมัดมือมัดเท้าคนร้ายเอาไว้ ขณะที่คนร้ายยังเปลือยกายอยู่ ตอนแรกคนร้ายเดินออกมาปกติ แล้วโวยวาย เมื่อเห็นคนมาเยอะจึงทำท่าเมาและนอนหลับหมดสติ แต่ก็ยังพยายามจะแก้มัดหลบหนีไป 2 ครั้ง คนร้ายมีบ้านอยู่ห่างจากนี้ประมาณ 2 กม. คนร้ายอยู่กับแม่ 2 คน คาดว่าคนร้ายจะเข้ามาบ้านหลังนี้เพื่อทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิงเจ้าของบ้าน หรือหวังแก่ทรัพย์สิน แต่โชคดีที่ยังสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายไหมฯ ไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.หนองหาน ซึ่งจะได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดอีกครั้ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายไหมฯ “บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล” แต่จะทำการสืบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาอื่นเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้