เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ว่ารัฐบาลต้องต่อสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต ว่า คงต้องชวนให้ประชาชน ย้อนดูการถามกระทู้ของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แล้วค่อยตัดสินว่า เป็นแรงค้านที่ไร้อนาคต หรือรัฐบาลที่ไร้คำตอบกันแน่ ตนคิดว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินได้ เพราะความตั้งใจของ น.ส.ศิริกัญญา และพรรคก้าวไกลนั้น ไม่เหมือนกับการถามกระทู้ ที่จะพูดอะไรก็ได้ เป็นการตั้งคำถามเฉพาะเจาะจง และให้ตอบคำถามมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากเศรษฐกิจจะวิกฤติหรือไม่วิกฤติ ขึ้นอยู่กับการบริหารของรัฐบาล ถ้าหากทำอย่างละเอียดตั้งอกตั้งใจวิกฤติคงจะคลี่คลายไปได้ แต่ถ้าจะทำแบบประชานิยม กู้เงินในอนาคตใช้งบประมาณมหาศาล จนเหมือนเป็นไข่ที่อยู่ในตะกร้าใบเดียว ถ้าพลาดขึ้นมาแล้ว แต่วิกฤติจะกลายเป็นวิบัติไปได้ ถ้าเกิดคุณกู้เงินในอนาคตโดยไม่ลงรายละเอียด

“ก็ต้องถามนายกรัฐมนตรีกลับ ว่าตอนที่ตอบคุณศิริกัญญา แล้วเอาสไลด์ขึ้น เป็นการวินิจฉัยปัญหาของประเทศ ที่น่าจะใกล้เคียงกับฝ่ายค้าน แต่ถามว่ามีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ ถามว่ากฎหมายที่ดองไว้ ท่านจะช่วยแก้ ท่านจะดองไปทำไม เพราะฉะนั้น ผมขอฝากสื่อมวลชนและประชาชนทั่วประเทศช่วยกันเป็นคนตัดสิน ผมมีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นอดีตหัวหน้าพรรคใกล้ชิดกับคุณศิริกัญญา คงจะไม่ได้เป็นคนตัดสิน ว่าตกลงเป็นแรงค้านที่ไร้อนาคต หรือรัฐบาลที่ไร้คำตอบต่อคำถามของคุณศิริกัญญา และความท้าทายของประเทศกันแน่” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่าคำถามและคำตอบในวันนี้ ฝ่ายค้านจะนำไปต่อยอดอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า อีก 2-3 สัปดาห์ จะมีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. เข้า และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบางทีพอเราจะทำตามนโยบายเรือธงของตัวเอง จนไปเบียดบังงบประมาณต่างๆ ที่เป็นปัญหา อาทิ ยาเสพติดสิ่งแวดล้อม งบประมาณด้านสาธารณสุข หลายครั้งรัฐบาลจะชอบบอกว่า การแจกเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติ สิงคโปร์ก็แจก แต่สิงคโปร์ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความพร้อมทางการคลังเหมือนไทย ก็อยากให้คิดให้ดี เพราะเห็นว่ากลับไปกลับมาหลายครั้ง ตอนนี้ก็ไม่ใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว ตรงนี้งบประมาณมหาศาล ถ้าใช้ไม่ดีจะกลายเป็นวิบัติมากกว่าวิกฤติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่รัฐบาลตัดงบประมาณเพื่อเอาไปทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในส่วนของ ธ.ก.ส. ออก จะกระทบกับผู้ใช้สิทธิหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่การใช้งบประมาณจะไปอยู่ที่งบกลาง ซึ่งคำถามคืองบประมาณปกติที่จะต้องมีการวางแผน ต้องมีตัวชี้วัด รวมถึงรายละเอียดชัดเจนออกมา ทำไมไม่ใช้ ทำไมต้องไปกองอยู่ที่งบกลาง แม้งบกลางมีประโยชน์ในการนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ถ้าทำบ่อยๆ มันเสียนิสัยและเสียวินัยการคลัง

เมื่อถามว่าประเมินการตอบกระทู้สดของนายกรัฐมนตรีรอบนี้ไว้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ให้ประชาชนประเมิน เพราะตนมีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นคนที่อยู่ในพรรคเดียวกัน ก็ขอเชิญชวนทุกคนให้ประเมินแล้วกัน