เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เดินทางเข้าติดตามตรวจสำนวนคดี ที่สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังมีแม่และยาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ในพื้นที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน้าเขยวัย 33 ปี ซึ่งเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี และอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันข่มขืนมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.6 ต่อเนื่องจนมาถึงชั้น ม.2 นานกว่า 2 ปี

จากการสอบถาม นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แม่เด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าว่า ตนแยกทางกับสามีมาหลายปีแล้ว และได้ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ และส่งให้ลูกเรียน โดยให้ลูกสาวอยู่กับยายและตา ที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวก็มีน้องสาวและน้าเขยอาศัยอยู่ด้วย ทั้งนี้ หากช่วงไหนว่างจากงานหรือช่วงเทศกาล ก็จะกลับมาเยี่ยมลูกและแม่ที่บ้านเป็นประจำ ทั้งนี้ เมื่อช่วงลูกสาวเรียนชั้น ป.6 กำลังเข้าสู่ชั้น ม.1 สังเกตเห็นลูกสาวผิดปกติ เก็บตัวเงียบ ซึมเศร้า ไม่ค่อยพูด ไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งแม่ก็พยายามสอบถามถึงสาเหตุหลายครั้ง ลูกสาวก็ไม่ยอมบอก จึงตัดสินใจพาลูกไปเรียนที่ต่างจังหวัดที่ตนทำงานด้วย 1 ปี กระทั่งลูกสาวอาการดีขึ้น และพาตัวกลับมาเรียนต่อชั้น ม.2 ที่บ้านเกิดใน อ.หนองกุงศรี เมื่อช่วงเปิดเทอมแรกที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อกลับมาเยี่ยมลูกสาวอีก ก็พบว่ามีอาการผิดปกติเหมือนเดิมอีกคือ ซึม และไม่ค่อยพูดจากับใคร ประกอบกับสังเกตเห็นเวลาน้าเขยพูดคุยกับลูกสาวนั้น ไม่เหมือนน้ากับหลานคุยกันปกติ แต่เป็นเหมือนการคุยคล้ายกับเป็นแฟนกัน กระทั่งมาระยะหลังลูกสาวอาการหนักขึ้น จนล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ลูกสาวได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าถูกน้าเขยข่มขืน ซึ่งข่มขืนหลายครั้งมาตั้งแต่เรียนชั้น ป.6 หลังจากได้ยินเรื่องดังกล่าว จึงเดินทางมาหาลูก ตนและยายจึงพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าวว่า ในวันนี้จึงเดินทางมาติดตามเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ เพราะเด็กวัย 13 ปีนั้น ถูกน้าเขยข่มขืนหลายครั้ง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเหตุเกิดครั้งแรกประมาณเดือน มี.ค. 65 และก่อเหตุล่าสุดเมื่อกลางเดือน มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา เป็นการกระทำต่อเนื่องกันมานานกว่า 2 ปี โดยอาศัยจังหวะที่คนไม่อยู่บ้าน และเบื้องต้นผู้ปกครองที่เข้าแจ้งความต้องการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุถึงที่สุด

พล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้จึงต้องมาดูความเรียบร้อย ความครบถ้วนของสำนวนการสอบสวน รวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งต้องทำอย่างรอบคอบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเด็ก ทั้งนี้ หลังรับแจ้งได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลตรวจของแพทย์ และขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแม่ของเด็กแล้ว ส่วนเด็กนั้นได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป.