เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย หัวลำโพง นายเจษฎา  แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพฯ นายธีรภัทร์ คหะวงศ์  ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน พร้อมด้วย เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์  เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต  และเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง กว่า 50 คน ยื่นหนังสือถึงนายจเร รุ่งฐานีย รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อคัดค้านการยกเลิกมาตรการห้ามขายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและภายในสถานีรถไฟ รวมถึงทวงถามการติดตามการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวเด็กหญิงจากคดีที่ถูกพนักงานของรฟท.ข่มขืน แล้วทิ้งศพริมทางรถไฟเมื่อปี 2557 ทั้งนี้ มีผู้แทนมารับหนังสือและจะรายงานให้รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รับทราบต่อไป

​นายเจษฎา กล่าวว่า จากกรณีเด็กหญิงถูกพนักงานรถไฟข่มขืน และทิ้งร่างน้องลงข้างทาง จนเสียชีวิต สร้างความสะเทือนใจกับประชาชนทั้งประเทศ เหตุเกิดเมื่อสิบปีที่ผ่านมา โดยหลังจากเหตุการณ์ เครือข่ายได้ร่วมกันผลักดันให้มีมาตรการห้ามขายห้ามดื่มเหล้าเบียร์บนรถไฟและสถานีรถไฟ จนมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางรถไฟ พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 5 ก.พ.2558 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเครือข่ายฯ มีการติดตามการบังคับใช้กฎหมายมาต่อเนื่อง จึงไม่เห็นด้วยที่ รฟท.เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2567 ขอให้มีการพิจารณาทบทวน ยกเว้นสถานที่ หรือบริเวณห้ามขายหรือการดื่มแอลกอฮอล์ บริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยง  ความไม่ปลอดภัย  ปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรง ทะเลาะวิวาท คุกคามทางเพศ จนไปถึงการเสียชีวิตย่อมตามมาอีกแน่นอน

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า การรถไฟจะคิดง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ เราจะตอบครอบครัวของผู้สูญเสียในวันนั้นได้อย่างไร เพราะกฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุร้ายกับน้อง  ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับคนอื่นอีก เครือข่ายฯ จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อการรถไฟดังนี้ 1.ขอคัดค้านการยกเลิก ข้อยกเว้นการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถไฟที่อยู่บนทางรถไฟ 2.ขอสอบถามความคืบหน้าไปยัง รฟท.เกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออายุ 13 ปี ที่ถูกกระทำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 3.ขอเรียกร้องให้ รฟท.เร่งพัฒนาคุณภาพการบริการ ความปลอดภัยในการใช้รถไฟ ความตรงต่อเวลาของสถานีรถไฟ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในการใช้บริการรถไฟมากยิ่งขึ้น มากกว่าการมุ่งจะขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะสร้างผลกระทบตามมาอีกมากมาย และ 4. ขอเรียกร้องให้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนก่อนการตัดสินใจต่อมาตรการนี้ เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด.