สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างรัฐบาลปักกิ่ง กับฝ่ายบริหารอียูในกรุงบรัสเซลส์ รุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยอียู มุ่งเป้าไปที่การสนับสนุนภาคส่วนพลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของจีนเป็นพิเศษ

ทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า นโยบายทางอุตสาหกรรมของจีนไม่เป็นธรรม และข่มขู่หลายครั้งว่าจะตอบโต้อียู เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมายของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งล่าสุด กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จะดำเนินการสอบสวนการกีดกันทางการค้าและการลงทุน ในแนวทางปฏิบัติที่อียูใช้ในการสืบสวนบริษัทของจีน

ทั้งนี้ การสอบสวนของรัฐบาลปักกิ่ง เกิดขึ้นหลังจากหอการค้าแห่งชาติจีน ซึ่งรับผิดชอบการนำเข้าและการส่งออกเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อทางการจีน โดยมีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น หัวรถไฟ, แผงโซลาร์เซลล์, พลังงานลม และอุปกรณ์ตรวจสอบความปลอดภัย

ด้านกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า การสอบสวนดังกล่าว จะตรวจสอบการดำเนินการของอียู ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบเบื้องต้น, การสืบสวนเชิงลึก และการตรวจสอบบริษัทจีนแบบกะทันหัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาจนถึงวันที่ 10 ม.ค. 2568 แต่ทางการจีนอาจขยายเวลาออกไปได้อีก 3 เดือน ภายใต้ “สถานการณ์พิเศษ”

อนึ่ง การสอบสวนของอียู มีขึ้นในขณะที่กลุ่มพยายามเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ควบคู่กับการออกห่างจากการพึ่งพาเทคโนโลยีของจีนมากเกินไป เนื่องจากรัฐบาลชาติตะวันตกในหลายประเทศ ต่างมองว่ารัฐบาลปักกิ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ.

เครดิตภาพ : AFP