รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า กรมทางหลวง(ทล.) อยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคของผู้รับเหมา 3 รายประกอบด้วยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) และบริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัดที่มายื่นข้อเสนอการประกวดราคา(ประมูล) โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 หรือ M7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 1.92กม. วงเงิน 4,508 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.นี้ มีแผนลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ ใช้เวลาก่อสร้าง 2.5-3 ปี คาดแล้วเสร็จในปี 70

โครงการใช้เงินนอกงบประมาณ(เงินกู้)จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) วงเงินลงทุน 4,508 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงาน 4,400 ล้านบาท และค่าเวนคืน 108 ล้านบาท ขณะนี้ได้เจรจาแหล่งเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) เรียบร้อยแล้ว สัดส่วนเงินกู้ 80% หรือ 3,520 ล้านบาท และ เงินงบประมาณ 20% หรือ 880 ล้านบาท

M7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา มีจุดเริ่มต้นที่กม.148+328 M7ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ถัดจากด่านเก็บเงินอู่ตะเภา มุ่งหน้าทิศใต้ข้ามทางรถไฟสายตะวันออก ขนานกับแนวรถไฟความเร็งสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีจุดสิ้นสุดเป็นทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัด ทล.3 (ถนนสุขุมวิท) เชื่อมต่อกับถนนโครงข่ายเชื่อมเข้าอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่สนามบินอู่ตะเภา

เป็นทางยกระดับแนวใหม่ขนาด 4 ช่องจราจร รวมทั้งก่อสร้างช่องทางเลี้ยว และทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัด ทล.3 พร้อมปรับปรุง ทล.3 ขยายจาก 4 ช่องจราจร เป็น 8 ช่องจราจร เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยย่นการเดินทางสู่สนามบินอู่ตะเภาจาก 5 กม. เหลือ 1.92 กม. โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เนื่องจากส่วนต่อขยายอยู่นอกบริเวณด่านอู่ตะเภา และไม่ได้สร้างด่านเพิ่ม โครงการนี้จะช่วยให้ประชาชนเดินทางเข้า-ออกสนามบินอู่ตะเภาได้อย่างสะดวก รวดเร็ว รองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เป็นศูนย์กลางการบิน และเมืองธุรกิจที่สำคัญของไทย