ร้อนแรงหนักมากทีเดียว สำหรับเรื่องราวมหากาพย์หนี้สินของ ลูกหมี รัศมี และนักแสดงดัง ปู มัณฑนา และสามี หาญส์ หิมะทองคำ ซึ่งยังหาจุดลงไม่ได้ เพราะต่างคนต่างยังไม่ได้ข้อสรุปจากการเจรจา ซึ่งทางปูและหาญส์เองก็ยังไม่ได้ชำระหนี้ลูกหมี และบอกว่าจะไม่ชำระหนี้ในราคา 2 ล้านบาท เพราะไม่ใช่หนี้จริง แต่ตั้งใจจะชำระหนี้แค่ 1.4 ล้านบาทตามจริง และแยกกับคดีหมิ่นประมาทที่ลูกหมีไปเดินทางทำให้เสียชื่อเสียงอีก งานนี้หลายคนเลยอดไม่ได้ที่จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

ล่าสุด ปู มัณฑนา ตามด้วย หาญส์ และทนายประมาณ ทนายของฝั่งปู ได้เดินทางไปอัดรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 8 โดยได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดว่า

ทนายประมาณ เผยว่า “จริงๆ เรื่องนี้มาจากเจ้าหนี้ทวงถามลูกหนี้โดยไม่ถูกต้อง ทั้งที่ทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งที่ ปู มัณฑนา จ่ายดอกเบี้ยมาตลอด แต่ล่าสุดผิดนัด คุณลูกหมีจึงมีการแจ้งความ และทำให้เรื่องไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้เหมือนเดิม ประกอบกับคุณปูประสบปัญหาโดนโกงที่ดิน และเงินลงทุนขาดมือ รวมถึงที่ดินที่จะขอกู้กว่า 100 ล้าน ก็โดนโกงไป เมื่อตรวจสอบบัญชีระหว่างปูและลูกหมี พบว่าลูกหมีโอนให้คุณปู รวมไปแล้ว 4 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงมีนาคมเลย คุณปูโอนให้คุณลูกหมี 2.6 ล้านบาท ถ้ามีเงินของที่ค้างอยู่ถึง 1.4 ล้านบาท ไม่ใช่ 2 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ที่เรื่องนี้ไม่จบ เพราะทัวร์ลงตลอด ทัวร์ลงพี่หาญส์ คุณปู และผม รวมถึงลูกผมที่เป็นทนายด้วยชื่อ ทนายกิ่ง ตอนนี้จ่ายไปแล้วไม่จบ เพราะมีคดีหมิ่นประมาท ใส่ความด้วย ดอกเบี้ยผิดกฎหมาย วันนั้นไกล่เกลี่ยไม่ได้ มาถึงวันนี้หนี้ 1.4 ล้านบาท ชำระแน่นอน ไม่ต้องห่วง แต่ต้องดูรายละเอียดการจ่ายเงินอีกครั้ง โดยจะไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งต้องแยกกับคดีหมิ่นประมาท แต่ยังไม่ได้จ่ายหมดนะ แต่ผมคิดว่าเรื่อง 1.4 ล้านลงเอย แต่เรื่องผิดวิธีการทวงลูกหนี้ไม่จบ เพราะยังตกลงไม่ได้ กลับไป 2 ล้าน ทางผมก็ไม่สะดวก ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ถ้า 1.4 ล้านบาท ก็ไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ก็รอไกล่เกลี่ย ต้องเห็นด้วยสองฝ่ายถึงโอเค ซึ่งถ้าเห็นไม่ตรงกันก็ไม่สามารถทำได้”

“ที่เขาทำมาขนาดนี้ คุณคิดว่าแค่คำขอโทษมันจบไหม พอไหม สื่อจากคำพูดของคุณหาญส์เองนะ แค่คำขอโทษมาพอเหรอคะ มาทำลายชื่อเสียงกันขนาดนี้ แค่ขอโทษพอไหม มันไม่ได้คำนวณออกมาเป็นเรื่องเงิน เรื่องเงิน 1.4 ล้านบาท กับการเยียวยา ด้วยการชำระหนี้ แต่การทำลายชื่อเสียงไม่รู้จะเยียวยายังไง เดี๋ยวประเมินความเสียหายไว้ ไม่ใช่เอามาต่อรองเพื่อลดการชำระหนี้หรืออะไรไม่มีเลย มันคนละส่วนกัน มันไม่ใช่เรื่องเงินเลย ของปู หาญส์ มันกระทบไปถึงลูก มันลึกไปอีกชั้นหนึ่ง ของผมนี่ไม่ใช่ 1.4 ล้านบาทเท่านั้นเลย 40 ล้าน หรือ 400 ล้าน ผมเจรจามาหมดแล้ว ผมเป็นทนายโจทก์และเจ้าหนี้ก็มี ก็มีวิธีอยู่ แต่เรื่องนี้เป็นหมิ่นประมาท ผมไม่เคยเจอทวงหนี้หมิ่นประมาท ไม่เคยเจอเดินสายทำลายชื่อเสียงเลย แถลงข่าว ไม่เคยเจอ เวลาทวงเงินก็ต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่ทำให้มันยาก ทวงหนี้แบบนี้ มีนาคมโอนครั้งสุดท้าย ไม่ได้หายไปนานเลย ไม่มีเลย จ่ายตลอด จ่ายต้น จ่ายดอก แต่พอนิดเดียวแจ้งความเลย แต่เช็คมันเป็นคดีแพ่งทั่วไป ขณะนี้กฎหมายยกเลิกคดีเช็คแล้ว แต่เป็นมันคดีแพ่ง หนี้สินไม่ใช่คดีอาญา แต่องค์ประกอบความผิดไม่เข้าเลย เอาคดีอาญามาบีบ จะฟ้องฉ้อโกงก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาผลประโยชน์กันทุกเดือน เดือนละแสนกว่าบาท เงินที่เอามาลง ท่วมกันแล้ว จะดำเนินคดีฉ้อโกงก็ไม่ได้ว่า แต่ถ้าแจ้งความเท็จก็ต้องยอมรับความผิดไป”

ปู มัณฑนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า “วันนั้นในห้องไกล่เกลี่ย มีตำรวจ ฝั่งเราและอีกฝั่ง โดยลูกหมีโอเคในเรื่องหนี้ตามจริงอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท ก่อนเราจะถามพี่ลูกหมีเรื่องที่ทำให้เราเสียชื่อเสียงอย่างไร ลูกหมีก็บอกว่าจะเดินสายออกรายการ เพื่อขอโทษเราทุกรายการ พอขอโทษจบ จะไปขอโทษต่อหน้าสื่อเพราะสื่อเยอะ ซึ่งวันนั้นก็บอกจะขอโทษกัน แต่จู่ๆ ก็มีคนเข้ามาบอกไม่เอา 1.4 ล้าน จะเอา 2 ล้านบาท ทั้งที่เรื่องจะจบอยู่แล้ว ซึ่งลูกหมีก็ยอมรับแล้วด้วย เรื่องนี้ไม่ได้ลดให้เรา เขาไปออกสัมภาษณ์แบบนั้น แต่เป็นหนี้ 1.4 ล้าน เป็นมูลหนี้จริง แต่ปูไม่รู้มีใครไปบอกให้เริ่มที่ 2 ล้าน ทั้งที่เราก็คุยด้วยดีแล้ว ก่อนพี่ลูกหมีจะพูดไปอีกเรื่อง ในส่วนของคดีก็ว่ากันไป ในส่วนของหนี้เราก็พร้อมจ่าย ที่เหลือเป็นเรื่องของคดีหมิ่นประมาทไป เราเป็นหนี้เราก็ต้องจ่ายเขาค่ะ พี่ปูไม่เคยบอกเขาว่าพี่ปูไม่จ่ายนะ เราติดต่อกันตลอด ไม่เคยห่างหายไป ขณะตอนที่เขาแจ้งความพี่ปูแล้ว ก็ยังมาแสดงความยินดีลูกสอบติดจุฬาฯ แต่พี่ลูกหมีบอกแล้วว่าจะไปออกรายการขอโทษพี่ปูพี่หาญส์ค่ะ”

“จริงๆ ที่ผ่านมา พี่ลูกหมีไปบอกทุกพรรคการเมืองเลยว่า เมียหาญส์ หิมะทองคำ ติดหนี้และออกเช็คเด้ง 2 ล้าน ทำให้เจ้านายพี่หาญส์ต้องโทรฯ มา และ สส. โทรฯ มาสอบถาม ทั้งที่พี่หาญส์ไม่เกี่ยวข้อง แต่ปูทำให้พี่หาญส์เสียชื่อเสียง แล้วผู้ใหญ่พรรคการเมืองก็โทรฯ มาบอกว่า ลูกหมีไปหลายพรรคมาก ซึ่งเรื่องทั้งหมด เราพยายามหาทางแก้ไขด้วยการนำที่ดินที่มีอยู่ไปขายฝาก และนำเงินสดมาคืน หรือนำที่ดินโอนให้พี่ลูกหมีเลย แต่สุดท้ายพี่ลูกหมีมาแถลงข่าวก่อน เรื่องเช็คตัวเขารู้ดี แต่เซ็นกระดาษเปล่าจริงๆ ที่เราทำธุรกิจด้วยกัน หนี้ไม่เยอะ เขาให้เซ็นกระดาษเปล่า เพราะพี่ปูมั่นใจว่าจ่ายได้ พี่ปูให้เพราะเราก็มีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว ที่เรื่องมันบานปลาย มีคนออกมากับลูกหมี คือธุรกิจที่ทำกันมีเพื่อนหลายคนค่ะ มีเพื่อนผ่านเพื่อนอีกทีหนึ่ง พอพี่ลูกหมีออกมา ก็มีคนออกมา เขาพยายามรวมตัวกันให้ครบ 10 คน เพื่อเป็นคดีฉ้อโกง แต่เพื่อนปูที่ทำธุรกิจด้วยกันบางคนก็ไม่ได้ออกมา เพราะเขารู้ดีว่าเราทำกันยังไง ผลประโยชน์ได้ยังไง ยืนเรียงกัน 10 คน เหมือนทุกคนเป็นเจ้าหนี้พี่หมดเลย แต่รู้จักแค่บางคน”

ปู เล่าต่อว่า “จริงๆ คุยกันได้ แต่เขาไปแจ้งความและลงโซเชียลเลย เขาควรคุยกับพี่ คุยกัน ไม่ใช่ไปแจ้งความและลงโซเชียล มีแชตไลน์คุยกันตลอด ไม่ได้ตามตัวไม่ได้ มี สส.พรรคประชาธิปัตย์ท่านหนึ่ง คุยกันกับพี่หาญส์ เขาเป็นตัวแทนพี่ลูกหมี คุยผ่านเขานะ รอวันที่ 16 ก.ค. จะได้รู้ว่าจบยังไง จริงๆ พี่ปูไม่ได้ยืมเงินใครนะคะ ให้เขาเอาหลักฐานมาเลย”


หาญส์ กล่าวว่า “เรื่องที่เขาบอกจะขอโทษ เขาพูดเอง มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ผมไม่เคยโดนอะไรแบบนี้เลย ผมตอบไม่ได้ ส่วนใหญ่เพื่อนผมโทรฯ มาก็ให้กำลังใจ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมเดินแบบผู้ใหญ่ แก้ไขให้ไง หลังทราบเรื่องหนี้สินของปู เราก็ทำอย่างมืออาชีพ โดยนำบริษัทเข้ามาวางและจัดการหนี้ หากมีเอกสารหลักฐานก็จะช่วยกัน”