สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 67 ธัญญ่า อาร์สยาม ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว หลังมีรถพยาบาลจากศูนย์เอราวัณเข้าไปที่บ้านพักของธัญญ่า เนื่องจากได้รับแจ้งจากผู้ก่อเหตุโทรป่วน แจ้งว่าที่บ้านพักของธัญญ่า มีคนล้มหมดสติอยู่ภายในห้องน้ำ ซึ่งเวลาดังกล่าวธัญญ่าไม่ได้อยู่ที่บ้านพักมีเพียงแค่แม่บ้านพักอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว และในช่วงหัวค่ำในวันเดียวกัน ผู้ก่อเหตุได้ใช้โทรศัพท์หมายเลขเดียวกันโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ สน.คันนายาว ว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บ้านธัญญ่า แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกลับไม่พบเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่ สน.คันนายาว น.ส.ชัชชญา ทวินันท์ หรือ ธัญญ่า อาร์สยาม อายุ 26 ปี นักร้องลูกทุ่ง และ นายอาโล่ เวียงแก้ว อายุ 22 ปี สามีหนุ่มนักธุรกิจ เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ราชนัย ชินายศ สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 1

ธัญญ่า อาร์สยาม เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 1 แต่ผู้ต้องหาไม่ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่เบื้องต้นทราบตัวผู้ต้องหาแล้ว เป็นหญิงอายุประมาน 50 ปี เพราะได้ตรวจสอบจากเบอร์โทรศัพท์ และยังทราบว่าในสองเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นคนคนเดียวกันที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ตนได้สอบถามกับทางตำรวจว่า มีโอกาสที่ผู้ต้องหาใช้เบอร์คนอื่นโทรได้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่า อย่างไรก็ตามต้องออกหมายเรียกเจ้าของเบอร์ก่อน หากเจ้าของเบอร์มีความบริสุทธิ์จริงจะต้องเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ต่อเจ้าหน้าที่ และหากวันนี้ผู้ต้องหาไม่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา จะมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หลังจากนี้อีก 14 วัน และหากครั้งที่ 2 ยังไม่มาจะออกหมายจับตามกระบวนการกฎหมาย

ธัญญ่า อาร์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับผู้ต้องหา แต่ตนทราบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวได้มีการใช้ชื่อนี้เปิดเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมดสองเบอร์ โดยเบอร์ที่ก่อเหตุได้ปิดใช้งานไปแล้ว แต่อีกหนึ่งเบอร์ตนได้ให้เพื่อนของตนโทรไปแล้วกลับพบว่าเสียงที่รับสายมีลักษณะดัดเสียงเป็นเด็ก และมีการกล่าวว่า “ไม่ได้โทรนะ” ทั้งที่เพื่อนของตนยังไม่ได้มีการสอบถาม ในวันนี้ที่ตนมาเพราะอยากมาเจรจาเนื่องจากยังสามารถเจรจาพูดคุยกันได้ แต่ก็ต้องมีเงื่อนไขกันไป แต่หากเป็นหมายจับแล้วจะต่อรองเงื่อนไขไม่ได้

ทั้งนี้ตนมีความกังวลเล็กน้อยเพราะตนไม่ได้เกิดความเดือดร้อนมาก เพียงแค่ตกใจและหวาดระแวง แต่ครอบครัวก็คอยให้กำลังใจตนอยู่ตลอด ทั้งนี้ตนยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิตเวชด้วยหรือไม่.