เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม พร้อมผู้สมัคร สว.จากกลุ่มอื่นๆ ประมาณ 7 คน รวมตัวกันมาที่สำนักงาน กกต. เพื่อเรียกร้องให้ กกต. ยังไม่รับรอง สว.ชุดใหม่ พร้อมให้เปิดหีบลงคะแนนเลือก สว. เพื่อพิสูจน์การลงคะแนนเลือกสว.ระดับประเทศเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 เป็นไปตามโพย สะท้อนถึงการฮั้ว การจัดตั้ง สว. เป็นการเลือกที่ไม่สุจริต เที่ยงธรรม

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เนื่องจากตนเป็นตำรวจ จึงใช้วิชาการสืบสวนสอบสวน จากโพยที่ได้มาจากที่มีคนทำตกไว้ในห้องน้ำ เมืองทองธานี ซึ่งเป็นสถานที่เลือก สว. ระดับประเทศเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อนำโพยดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับมีการลงคะแนนให้กลุ่มหมายเลขเดิมๆ ตรงกัน ทำให้ผู้ได้รับการเลือกได้คะแนนโดดขึ้นไปสูงกว่าคนอื่นๆ มีเพียงกลุ่ม 14 เท่านั้นที่ผลไม่ได้ออกมาตามโพย ก็ไม่รู้ว่ามีการหักดีลอะไรกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากผลที่ออกมานั้น เห็นว่า มี สว.ที่ได้รับเลือก 119 คน ที่มาตามโพย เรื่องนี้ตนจึงขอให้ทาง กกต.อย่าเพิ่งประกาศรับรองผล แต่ให้เปิดหีบเลือก สว.แล้วนำออกมาเทียบกับโพยนี้เลย จะเห็นว่ามีการจัดตั้ง

“ผมไปเจอโพยนี้ในห้องน้ำ มีคนขยำทิ้งไว้ในห้องน้ำ ผมเลยเอาไปให้คุณแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ตอนประมาณตีห้า แต่ท่านบอกให้ผมไปทำเรื่องร้องเรียนเอาไว้ ผมก็ไปไม่เป็นเลย พอดีหลังจากเจ้าหน้าที่คืนโทรศัพท์มือถือมาให้ผมเลยถ่ายรูปมา แล้วสืบสวนสอบสวน เพราะทุกอาชญากรรมจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ อยู่ที่ว่า มือถึงหรือไม่ และจะทำหรือไม่” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว

ด้าน นายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 3 การศึกษา กล่าวว่า เรื่องการฮั้ว การจัดตั้งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากทำตาม พ.ร.ป.เลือก สว. แต่การเลือก สว.รอบนี้เป็นทฤษฎีสมคบคิด ถ้าปล่อยให้การเลือก สว.ครั้งนี้ เป็นไปตามโพย จะเป็นทฤษฎีสมคบคิดอย่างเป็นระบบ บังคับให้ทุกคนอยู่ภายใต้กติกาที่กรรมการออกมาแล้วให้ทุกคนเล่น ซึ่งมี 2 ข้อ 1. การจัดตั้ง ซึ่งใน 20 กลุ่มต้องใช้คนจำนวนมาก และเพื่อให้ได้คุณสมบัติตรงตามกลุ่มอาชีพได้ ก็จะมาสู่การบล็อกโหวต 2. การทำให้คนสมัครผิดกลุ่มไม่มีความผิด ซึ่งสามารถยืนยันได้จากสิ่งที่อยู่ในหีบบัตรเลือก สว. ว่ามีการบล็อกโหวต มีการเลือกเป็นแพ็กเกจจริง ทำให้การเลือกครั้งนี้ไม่เป็นความลับ ซึ่งผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้มีตัวละครเกี่ยวข้อง คือ 1. ผู้สมัครทั้งหมด ที่ถูกจัดเป็นเซต และมีคุณสมบัติที่ไม่ตรงกลุ่ม 2.กรรมการซึ่งเป็นผู้กำหนดกติกามาตั้งแต่ต้น ที่ระบุว่า การฮั้ว การบล็อกกันไม่ผิด 3. ตัวร้าย คือกลุ่มบุคคลที่ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่ แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ไปจัดตั้ง ทำให้ได้คะแนนสูงถึง 70-80 คะแนน เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก เพราะรอบสุดท้ายคนโหวตมีแค่ 160 คน แต่มีคนได้คะแนนสูงสุดถึง 79 คะแนน คิดเป็น 50% ของคะแนนทั้งหมด ดังนั้นกลุ่มที่ 3 จึงเป็นกลุ่มอิทธิพล และกกต.ระบุเองว่า คนเหล่านั้นมีอิทธิพล มีเงิน เมื่อรู้ขนาดนี้ก็ควรหาให้เจอ.