เมื่อวันที่ 9 ก.ค. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน บุกจับ นายเดนิส เชอร์เวงโก อายุ 42 ปี สัญชาติรัสเซีย ได้ที่ Pooltrap Village Bungalows 111/1 หมู่ 6 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น ADV 160 CC สีเทา ป้ายทะเบียน 1กว 3180 สุราษฎร์ธานี, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น ADV 160 CC สีดำ ป้ายทะเบียน 3กภ 1258 ชลบุรี, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น NMAX 155 CC สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 2ขค 9185 กรุงเทพมหานคร, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น NMAX 155 CC สีแดง ป้ายทะเบียน 1ขด 6550 กรุงเทพมหานคร, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Click 108 CC สีขาว-น้ำตาล ป้ายทะเบียน คพน 202 สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 175 วัน)”

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ได้รับการร้องเรียน กรณีชาวต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน (ปล่อยรถจักรยานยนต์เช่า) โดยมีการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์ม Telegram ซึ่งเป็นกลุ่มของชาวรัสเซียที่พักอาศัยใน อ.เกาะพะงัน ได้ทำการออกสืบสวนได้พบผู้ใช้งานชื่อว่า Bike Phangan Samui RENT SALE โฆษณาการปล่อยเช่ารถจักรยานยนต์ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางแผนทำการติดต่อผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม Telegram ได้ทราบรายละเอียดราคาการเช่า 2,800 บาทต่อ 1 สัปดาห์, 2,100 บาทต่อ 2 สัปดาห์ ค่ามัดจำรถจักรยานยนต์ 3,500 บาท

นายเดนิส ให้การยอมรับว่า ตนไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใดและอยู่ในราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย พร้อมประกอบอาชีพปล่อยรถจักรยานยนต์เช่า เพื่อหาปัจจัยดำรงชีพอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปจับกุมเสร็จ นายเดนิส บอกว่า “คุณตำรวจเอาแบบนี้มั้ย เดียวฉันให้ 1 ล้านแลกกับปล่อยตัวฉัน เดียวฉันโทรฯ ให้เพื่อน เอาเงินมาให้ ไม่เกิน 20 นาที ทุกอย่างจะจบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพวกคุณตำรวจก็กลับไปบ้านหาลูกเมีย และพาลูกเมียไปหาของอร่อยๆ กิน” แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใส่ใจ พร้อมกับถ่ายรูปหลักฐานประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดี แต่นายเดนิส กลับยกนิ้วโป้ง 2 ข้างให้เจ้าหน้าที่ด้วยรอยยิ้ม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวชาวรัสเซีย ว่า นายเดนิส เป็นมาเฟียอยู่ที่รัสเซีย.