ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าอาคารศาลแขวงสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายชะรัตน์ สุวรรณมา อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐาน บนหน้าบันอาคารศาล โดยมีนางอรุณีย์ ปัทมามาลย์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะผู้พิพากษา นายธีรพล แก้วไวยุทธ อัยการจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมชาย หลงเศษ อัยการจังหวัดผู้ช่วย นางสาวกนกรัตน์ ธรรมพนิชวัฒน์ นายกิตติศีกดิ์ โรจน์นัทกิจ นางสาวลักขณา ยุ้นพันธ์  อัยการประจำกองนายณัฐวัฒน์ ลาภวิเศษชัย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด คณะผู้พิพากษา ผู้พิพากษาสมทบนายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ นายคงคา ชื่นจิต นายอำเภอสุวรรณภูมิ นายสมศักดิ์ เศรษโฐ นายกเทศมนตรีตำบลสุวรรรณภูมิ นายสุพรรณ โตนหนองหว้า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระคู คณะทนายความ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้มีเกียรติร่วมพิธีจำนวนมาก

นางอรุณีย์ กล่าวว่า ศาลแขวงสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอสุวรรณภูมิ เลขที่ 437 หมู่ 2 ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งตามโบราณคดีเชื่อกันว่า “ครุฑ” หรือ “พญาครุฑ” เป็นพญานกที่ทรงฤทธานุภาพ เป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์ ได้รับพรให้เป็นอมตะ มีอานุภาพมากมาย ไม่มีศาสตราวุธใดๆ ทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ มีพละกำลังมหาศาล แข็งแรง สติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด แต่อ่อนน้อมถ่อมตนมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ

ดังนั้นประเทศไทยจึงได้นำ “ครุฑ” มาใช้เป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นตราประจำแผ่นดิน หรือตราพระราชลัญจกร ซึ่งหมายถึงพระราชบัลลังก์ นอกจากนี้ ตราครุท ยังใช้เป็นตราประจำสถานที่ราชการต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาในการพิจารณาพิพากษาคดี ต้องดำเนินการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ดังนั้น เพื่อให้อาคารศาลแขวงสุวรรณภูมิ มีภาพลักษณ์สมกับเป็นสถานที่อันทรงเกียรติที่ได้ปฏิบัติราชการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ศาลแขวงสุวรรณภูมิ จึงจัดพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐาน ณ หน้าบันอาคารศาลแขวงสุวรรณภูมิ เพื่อความสง่างามและเป็นคุณแก่ผู้ปฏิบัติราชการในศาลนี้ อันจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป