สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ว่าอิทธิพลของเฮอริเคนเบริล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย แต่ตอนนี้ พายุลดระดับลงเป็นไซโคลนเขตร้อนเแล้ว

ขณะเดียวกัน ผู้คนหลายล้านคนในพื้นที่เมืองฮิวสตัน ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้และต้องทนกับความร้อน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า อุณหภูมิซึ่งร้อนอบอ้าวเป็นความกังวลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ข้อมูลจากทางการสหรัฐระบุว่า เฮอริเคนเบริลขึ้นฝั่งที่รัฐเทกซัส ด้วยความรุนแรงของลมระดับ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายในรัฐเทกซัส และอีกอย่างน้อย 1 ราย ที่รัฐลุยเซียนา

ทั้งนี้ หากรวมจำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐ จากอิทธิพลของเฮอริเคนเบริล กับจำนวนผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศแถบแคริบเบียน ซึ่งพายุพาดผ่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะเพิ่มสถิติเป็นอย่างน้อย 18 ราย

ขณะเดียวกัน ประชาชนในราว 2 ล้านครัวเรือนของรัฐเทกซัส ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เนื่องจากโครงข่ายไฟฟ้าเสียหาย และอุณหภูมิสูงถึง 41 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ครัวเรือนอีก 14,000 หลัง ในรัฐลุยเซียนาประสบกับปัญหาเดียวกัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งแก้ไข

อนึ่ง เบริลถือเป็นเฮอริเคนลูกแรก ที่มีความเร็วลมรุนแรงแตะระดับ 4 เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และเป็นเฮอริเคนลูกแรก ซึ่งทวีความรุนแรงถึงระดับ 5 ที่เป็นขั้นสูงสุด ในเดือน ก.ค.

ด้านนายไมเคิล โลว์รี ผู้เชี่ยวชาญ ระบุเพิ่มเติมว่า เบริลยังเป็นเฮอริเคนลูกแรก ซึ่งทำให้เกิดแผ่นดินถล่มที่รัฐเทกซัส ครั้งแรกในรอบทศวรรษ และถือเป็นเรื่องยากที่พายุรุนแรงจะก่อตัวในช่วงต้นฤดูเฮอริเคนของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งอยู่ระหว่างเดือน มิ.ย.-พ.ย.

นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทกับการทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วของพายุ โดยเฉพาะพายุเบริล ซึ่งได้รับพลังงานจากมหาสมุทรที่มีอุณหภูมิอุ่นขึ้น.

เครดิตภาพ : AFP