สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ว่า สหภาพแรงงานพนักงานของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (เอ็นเอสอียู) ออกแถลงการณ์ ขยายระยะเวลาการหยุดงานประท้วงผู้บริหาร “อย่างไม่มีกำหนด” จากเดิมที่ประกาศว่า จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค. เนื่องจากฝ่ายบริหาร “ยังไม่มีความพร้อมและยินดีที่จะเจรจา”


การผละงานประท้วงครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเอ็นเอสอียู หยุดงานประท้วงเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของซัมซุง ที่พนักงานผละงานประท้วงผู้บริหาร ซึ่งคัดค้านการก่อตั้งสหภาพแรงงานมาตลอด จนกระทั่งยอมอนุญาตเมื่อช่วงปลายทศวรรษที่ 2010 หลังนายอี บยอง-ชุล ผู้ก่อตั้งอาณาจักรซัมซุง ถึงแก่กรรม เมื่อปี 2530

สมาชิกสหภาพแรงงานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ รวมตัวประท้วง ภายในพื้นที่ของโรงงาน ที่เมืองฮวาซอง ในเกาหลีใต้


ทั้งนี้ เอ็นเอสอียูเรียกร้องการปรับขึ้นค่าแรงอีก 5.1% เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและปฏิรูปสวัสดิการ การปฏิรูประบบวันลาต่อปี และการพิจารณามอบโบนัสให้แก่พนักงาน “อ้างอิงตามผลงานรายบุคคลอย่างแท้จริง” การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา แต่แทบไม่มีความคืบหน้ามากนัก


อย่างไรก็ตาม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ออกแถลงการณ์ว่า กระบวนการทำงานและการผลิตของทุกขั้นตอนของบริษัท “ยังคงเป็นไปอย่างราบรื่นตามปกติ” และจำนวนพนักงานที่เข้าร่วมมีประมาณ 5,000 คน จากจำนวนสมาชิกในสหภาพแรงงาน ที่มีทั้งหมดราว 30,000 คน


ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การผละงานประท้วงของพนักงานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสายงานการผลิต จากการที่ซัมซุงประยุกต์นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาสนับสนุน หรือถึงขั้นใช้แทนแรงงานมนุษย์แล้วหลายขั้นตอน
นอกจากนี้ ซัมซุงคาดการณ์ผลกำไรจากการปฏิบัติงาน สำหรับไตรมาสที่สองปีนี้ จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 เท่า เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ).

เครดิตภาพ : AFP