นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงผลการลงพื้นที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ผลผลิตลำไย และการเตรียมมาตรการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ว่า ปีนี้ผลผลิตลำไยภาพรวมของประเทศ ทั้งในฤดูและนอกฤดู จะมีปริมาณ 1.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2% เป็นผลผลิตทางภาคเหนือประมาณ 1 ล้านตัน และ จ.เชียงใหม่ ถือเป็นแหล่งเพาะปลูกมากประมาณ 40-50% ของผลผลิตทั้งหมด โดยสถานการณ์ด้านราคาขณะนี้อยู่ในทิศทางที่ดี เกรด AA อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 40-45 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา ที่ประมาณ กก.ละ 30-35 บาท ซึ่งกรมได้เตรียมมาตรการดูแลผลผลิต ที่จะออกมากตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ไว้พร้อมแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความเป็นห่วงเกษตรกรชาวสวนลำไย และได้สั่งการให้กรมเตรียมมาตรการดูแล 

สำหรับมาตรการที่จะนำมาใช้ ได้มีการประสานกับผู้ส่งออก ผู้รวบรวมในพื้นที่และนอกพื้นที่ เข้าไปรับซื้อผลผลิต  โดยมีทั้งเรื่องการอบแห้งและการส่งออก โดยการอบแห้งตั้งเป้าหมายไว้ 100,000 ตัน และจะมีกิจกรรมการรณรงค์บริโภคทั่วประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งให้สถานีบริการน้ำมันรวบรวมและนำลำไยทั้งลำไยอบแห้งและลำไยสดไปแจกจ่ายเพื่อเป็นของสมนาคุณให้กับพี่น้องประชาชนที่เติมน้ำมันเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้ส่งออกระดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ส่งออกไปอินโดนีเซียและอินเดีย ได้รับการยืนยันว่า ตลาดมีความต้องการลำไยจากไทยเพิ่มขึ้น และตลาดจีน ก็มีความต้องการ ซึ่งวันนี้ ก็มีการปิดตู้เพื่อส่งออกไปทั้งอินเดียและจีน ส่วนปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ ขณะนี้มีเพียงพอ และการขนส่ง ก็ไม่มีปัญหา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กรมได้ประสานกับบริษัทสายเรือไว้ล่วงหน้า ทำให้การส่งออกเป็นไปโดยสะดวก

“มาตรการที่กรมได้เตรียมไว้ พร้อมที่จะใช้ดูแลผลผลิตลำไย ทั้งการเร่งระบายผลผลิตออกนอกพื้นที่ การผลักดันการส่งออก การนำไปทำลำไยอบแห้ง อีกอันที่จะนำมาใช้ คือ การแปรรูปเป็นลำไยคว้านเมล็ด ปีนี้จะลองทำดู และยังจะรณรงค์การบริโภคลำไย จึงขอฝากพี่น้องประชาชน หากพบลำไยที่ไหน ก็ขอให้ช่วยกันบริโภค เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องเกษตรกรและชาวสวนลำไย โดยปีนี้ลำไยอร่อยมากอร่อยจริง ๆ และคุณภาพดีมาก” นายวัฒนศักย์กล่าว

 ก่อนหน้านี้ กรมการค้าภายในได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ไว้แล้วตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.2566 โดยเตรียมมาตรการดูแลผลไม้ไว้ทั้งสิ้น 9 แสนตัน เฉพาะลำไยประมาณ 2 แสนตัน ทั้งในเรื่องการผลักดันส่งออก การแปรรูป และการรณรงค์บริโภค โดยมั่นใจว่า จะผลักดันให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีได้ตลอดทั้งฤดูกาล