สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ว่า เอฟเอเอ ออกคำสั่งความสมควรเดินอากาศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที และส่งผลกระทบต่อเครื่องบินที่จดทะเบียนในสหรัฐ มากกว่า 2,600 ลำ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้แน่ใจว่า หน้ากากออกซิเจนสำหรับผู้โดยสาร อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง บนเครื่องบินโบอิ้งบางลำ
ทั้งนี้ เอฟเอเอ ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ดำเนินการจะต้องตรวจสอบหน้ากากออกซิเจน และหากจำเป็น พวกเขาต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ให้แล้วเสร็จภายใน 120-150 วัน พร้อมกับเสริมว่า ทางสำนักงานมีคำสั่งข้างต้น หลังได้รับแจ้งจากรายงานหลายฉบับ เกี่ยวกับตำแหน่งของหน้ากากออกซิเจน ซึ่งไม่ตรงกับที่นั่งผู้โดยสาร และการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความผิดปกติ
ด้านโบอิ้ง ระบุว่า กาวชนิดใหม่ที่บริษัทนำมาใช้เมื่อเดือน ส.ค. 2562 เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้ากากออกซิเจนเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมในบางครั้ง ซึ่งในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โบอิ้งได้ให้คำแนะนำกับผู้ดำเนินการบิน ในการปรับปรุงสายยึดหน้ากากออกซิเจนส่วนหนึ่ง บนเครื่องบินรุ่น 737 โดยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทตัดสินใจกลับไปใช้กาวแบบเดิม เพื่อทำให้แน่ใจว่า หน้ากากออกซิเจนยังอยู่ในตำแหน่งเดิม
อนึ่ง คำสั่งล่าสุดของเอฟเอเอ มีขึ้นไม่นานหลังโบอิ้ง บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เกี่ยวกับเหตุเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ตกถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 346 ราย ในเอธิโอเปีย และอินโดนีเซีย เมื่อกว่า 5 ปีที่แล้ว โดยเอกสารของศาลแสดงให้เห็นว่า โบอิ้งเตรียมรับสารภาพในข้อหา “ฉ้อโกง”.
เครดิตภาพ : AFP
