เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 9 ก.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอำเภอทับลาน จังหวัดนครราชสีมา ว่า ขั้นตอนขณะนี้ไม่อยู่ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ผ่านมาทุกเรื่องของกระทรวงเกษตรฯภายใต้ทำงานภายใต้คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติทั้งหมด กรณีอุทยานแห่งชาติทับลาน  เกิดขึ้นในรัฐบาลหลายยุค แต่มาสรุปต้นปี 2566 ในรัฐบาลยุคที่แล้ว เรื่องการปรับแนวเขตปี 2543 โดยหลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบ ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องไปดำเนินการ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ และขณะนี้ก็มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ขอให้เข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ขออย่านำมาผสมผสานจนเข้าใจผิด ในฐานะที่ตนกำกับดูแล สปก. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับนโยบายจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) หาก สคทช. เห็นชอบก็จะนำเสนอต่อครม. และเมื่อครม.เห็นชอบให้ สปก.นำไปจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรทำกินก็จะต้องนำไปปฏิบัติ  ทั้งนี้ ขอให้เข้าใจตรงนี้ตนเห็นสื่อบางสำนักไปโจมตี สปก. ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย 

เมื่อถามว่าที่ดินที่มีปัญหาที่อุทยานแห่งชาติทับลานมีปัญหามคาบเกี่ยว กับบางรีสอร์ทที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เคยไปจัดสัมมนาเมื่อปี 2562 และต่อมาก็มีมติมติครม. ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้

เมื่อถามต่อว่าจำนวนที่ดินที่ทับซ้อนประมาณ 150,000 ไร่ ในจำนวนนี้พบว่ามีของนายทุนและชาวบ้านนั้น  ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ดินเหล่านี้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีคณะกรรมการตรวจสอบ และจำแนกชัดเจน ว่าตรงไหนที่ประชาชนร้องเรียนมา ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมด จนนำไปสู่การประชุมของการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน (คนช.)  ตนย้ำว่าต้องมีการจำแนกให้ชัดเจนถึงแนวเขตว่าตรงไหนควรอนุอนุรักษ์เป็นป่า ตรงไหนที่ชาวบ้านอยู่แล้ว หลายคนที่ออกมานำเสนอก็มีข้อมูลที่ถูกต้อง เพียงแต่ต้องเข้าใจก่อนว่ากรณีนี้เป็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งมีมาตรการและขั้นตอนอยู่ เพราะฉะนั้นขอให้ใจเย็นๆ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการทำประชาวิจารณ์อยู่  

เมื่อถามอีกว่าจะต้องใช้แผนที่ใดในการแบ่งเขต ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราบริหารราชการแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่จะปฏิบัติก็ต้องนำมติที่ผ่านคณะกรรมการนโยบายที่ดินเข้าที่ประชุมครม.  

เมื่อถามย้ำว่าการออกสปก. ทับที่อุทยานเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวยืนยันว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานปฏิบัติที่ต้องทำตามมติครม.เมื่อเห็นชอบอย่างไร เราก็ต้องนำไปปฏิบัติหากไม่ปฏิบัติก็จะโดนมาตรา 157 ดังนั้นเรื่องนี้ยังไม่ถึงกระบวนการของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(สปก.) ตอนนี้เป็นเรื่องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินการ และหลังจากที่กรมอุทยานเห็นชอบอย่างไรก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจนและตรงไหนที่เป็นกลุ่มนายทุนบุกรุกก็จะต้องถูกออกหมายจับดำเนินคดีอาญา  ดังนั้นต้องแยกแยะระหว่างผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายกับปัญหาประชาชน

“นี่ไม่ใช่การงัดข้อกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเรื่องนี้เราคุยกันตลอด และผมก็ได้หารือกันกับทุกฝ่าย ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งยังไม่ถึงกระบวนการที่สปก.จะเข้าไปดำเนินการ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามถึงปัญหาความเห็นไม่ตรงกันของทั้ง 2 กระทรวงที่มีบ่อยครั้ง  ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวว่าตอนนี้เรามีคณะกรรมการที่ทำงานร่วมกัน.