สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ว่าปาแลเดอเลลีเซ หรือทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ว่า นายกาเบรียล อัตตาล นายกรัฐมนตรี เข้าพบประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝรั่งเศสยังไม่อนุมัติ โดยกล่าวว่า ต้องการให้อัตตาล “ปฏิบัติหน้าที่ต่ออย่างน้อยในเวลานี้ เพื่อเสถียรภาพของบ้านเมือง” หลังการเลือกตั้ง และการที่ฝรั่งเศสกำลังจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน
ผลอย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งทั่วไปฝรั่งเศส ที่เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ 577 ที่นั่ง ลงคะแนนสองรอบ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในนาม “แนวร่วมประชานิยมใหม่” ( เอ็นเอฟพี ) ที่เป็นการรวมตัวระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์ พรรคสังคมนิยม และพรรคกรีนส์ ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด 180 ที่นั่ง
ตามด้วยพันธมิตรสายกลางนำโดยพรรคเรเนสซองส์ ของมาครง 159 ที่นั่ง และพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ( อาร์เอ็น ) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของนางมารีน เลอ แปน และนายจอร์แดน บาร์เดลลา 142 ที่นั่ง ส่วนจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิทั้งสองรอบ อยู่ที่ประมาณ 66%
ผลคะแนนดังกล่าวหมายความว่า จะไม่มีพรรคการเมืองใดสามารครองเสียงข้างมากได้อย่างเด็ดขาดในสภา ซึ่งจะต้องมีจำนวนที่นั่งอย่างน้อย 289 ที่นั่ง และยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลฝรั่งเศสชุดใหม่จะออกมาในรูปแบบใด เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในเวลานี้ หมายความว่า ฝรั่งเศสเผชิญกับภาวะสภาแขวน
แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่า อัตตาล วัย 35 ปี ยังต้องดำรงตำแหน่งต่ออีกนานเท่าใด ขณะที่มาครงจะยังคงอยู่ในตำแหน่งตามวาระ ซึ่งจะครบกำหนด 2 สมัย ในปี 2570 แต่นายบรูโน เลอ แมร์ รมว.กระทรวงการคลังฝรั่งเศส เตือนว่า ยิ่งวิกฤติการเมืองยืดเยื้อนานเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับฝรั่งเศสในการเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจมากขึ้น และยาวนานขึ้นเท่านั้น.
เครดิตภาพ : AFP
