เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายพูนศักดิ์ จันทร์จําปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดรับฟังความเห็นการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่ 265,266 ไร่ ไป ออกจากการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นำไปเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทำให้เกิดเสียงคัดค้านกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทำความรู้จัก ‘อุทยานแห่งชาติทับลาน’ ป่าลานผืนสำคัญ-มรดกโลกที่พึงรักษา!

นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องย้อนไปถึงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ที่ออกมาเมื่อปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาเขตที่ดินทับซ้อนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่จนถึงวันนี้ล่วงเลยมาเกือบ 10 ปี วันแม็พยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีเสียงคัดค้านเกิดขึ้นระหว่างทาง เช่นเดียวกับที่เกิดในกรณีอุทยานฯทับลาน

นายพูนศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยในแง่ข้อเท็จจริง กรณีทับลานเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีข้อร้องเรียนเรื่องพื้นที่ทับซ้อน จากการที่กรมอุทยานฯ ประกาศแนวเขตเมื่อปี 2524 ทับแนวเขตที่หน่วยงานอื่นเคยประกาศไปก่อนหน้าและได้จัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้ประชาชนไปแล้ว โดยวันพุธที่ 10 ก.ค.นี้ ทาง กมธ.ที่ดินฯจะพิจารณาการบรรจุเรื่องร้องเรียนของมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ที่ได้ยื่นให้ กมธ.ที่ดินฯ ตรวจสอบกระบวนการเพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ ดังกล่าวเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมวันที่ 17 ก.ค. ต่อไป

นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับพรรคก้าวไกล เราสนับสนุนการจัดทำวันแม็พเพื่อให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานสามารถยึดถือแผนที่อันเดียวกันเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ประกอบกันอย่างรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนที่ต่อสู้เรื่องแนวเขตและสามารถพิสูจน์สิทธิในที่ดินดังกล่าวได้ ควบคู่กับการดูแลรักษาเขตป่าอนุรักษ์ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ รวมถึงการกวดขันการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องป้องกันมิให้ที่ดินป่าถูกบุกรุกโดยนายทุน ดังนั้นการปรับปรุงแนวเขตตามวันแม็พเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำให้สำเร็จ มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาเช่นกรณีอุทยานฯทับลานในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป