ในเดือน มี.ค. 2565 องค์กรไม่หวังผลกำไรที่ทำหน้าที่ดูแล “โรมันบาธ” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองบาธ ประเทศอังกฤษ ได้ออกระเบียบใหม่ ห้ามนักท่องเที่ยวโยนเหรียญลงไปในสระน้ำใหญ่ โดยเปลี่ยนเป็นการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทน เพื่องดเว้นการใช้เงินสดหรือเหรียญเงิน
เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนสถานที่อาบน้ำของชาวโรมันโบราณอันเลื่องชื่อแห่งนี้ จะมีป้ายแจ้งเตือน โดยขอให้งดเว้นการโยนเหรียญเงินลงไปในสระน้ำ โดยสามารถหยอดเหรียญลงกล่องรับเงินหรือใช้บัตรเครดิตแตะที่เครื่องรับชำระเงินแทน
แต่ผลที่ตามมากลับกลายเป็นว่า ระเบียบนี้ได้มีส่วนทำให้เงิน “บริจาค” ที่ได้จากการโยนเหรียญลงสระน้ำตามธรรมเนียมอธิษฐานขอพรที่นักท่องเที่ยวนิยมทำกัน หายไปจากเดิมเป็นจำนวนมากกว่า 4 ล้านบาท เหลือเพียง 443,437 บาทในปี 2566-2567 ทั้งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมืองนี้ร่วม 1 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ สระน้ำชื่อดังของเมืองบาธเก็บเงินเหรียญจากก้นสระได้เป็นจำนวนมากถึง 4.8 ล้านบาทในปี 2561-2562 ซึ่งเป็นสองปีสุดท้ายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวโยนเหรียญลงสระน้ำได้โดยไม่จำกัด หลังจากนั้น การท่องเที่ยวทั่วโลกก็ประสบภาวะชะงักงันเนื่องจากเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด
องค์กรผู้ดูแลโรมันบาธตัดสินใจงดเว้นการอนุญาตให้โยนเหรียญลงสระโดยให้เหตุผลว่า พบแนวโน้มที่คนกำลังใช้เงินสดกันน้อยลง ตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการโยนเหรียญดังกล่าวเริ่มสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างของโบราณสถานแห่งนี้
เหตุผลอีกด้านหนึ่งก็คือค่าใช้จ่ายในการเก็บเหรียญจากสระไม่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับจำนวนเศษเหรียญที่เก็บได้ แล้วยังต้องใช้เวลานานในการระบายน้ำออกจากสระ ขณะที่เหรียญบางเหรียญก็เสียหายจนไม่สามารถนำไปใช้ได้ และธนาคารไม่รับฝาก
ต่อมา ก็มีคนหลายกลุ่มออกมาต่อต้านนโยบายนี้โดยชี้ว่ายังคงมีคนจำนวนมากที่ใช้เงินสดในการบริจาค ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ยังไม่ได้หายไปไหน กลุ่มใหญ่อย่าง Campaign group Payment Choice Alliance ระบุว่า องค์กรผู้ดูแลโรมันบาธควรมีทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการบริจาคหรือโยนเหรียญ และการอธิษฐานขอพรด้วยการแตะบัตรเครดิตกับเครื่องรับเงินทำลายมนต์ขลังของธรรมเนียมนี้เสียสิ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมื่อปีที่แล้ว สถานที่แห่งนี้ได้รับเงินบริจาคผ่านระบบไร้เงินสดเพียง 110,467 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้วซึ่งได้เงินบริจาคผ่านระบบนี้ 116,622 บาท โฆษกของ Bath and North East Somerset Council ซึ่งเป็นองคก์รที่ดูแลสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็แถลงยืนยันว่า เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว โรมันบาธสามารถสร้างรายได้จากการขายบัตรเข้าชมและค่ากิจกรรมอื่น ๆ มากกว่าจำนวนรายได้ของปีที่ผ่าน ๆ มา
นอกจากนี้ องค์กรยังระบุว่าจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสถานที่ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญของประเทศเป็นอันดับแรก โดยชี้แจงว่าการโยนเหรียญลงสระน้ำใหญ่ทำให้โครงสร้างทรงกลมของโรงอาบน้ำเกิดความเสียหายและเสี่ยงต่อการพังทลายลงได้
ที่มา : news.com.au
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
