SHARGE เปิดตัว ‘EV Fleet Solutions’ โซลูชันดูแลรถองค์กรและรถเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรครั้งแรกในไทย ช่วยให้องค์กรธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถ EV ได้ง่ายขึ้น ชู 3 บริการหลัก ‘ช่วยคิด’ ‘ช่วยแสดงผล’ และ ‘ช่วยลดขั้นตอน’ นำเทคโนโลยียกระดับให้ชาร์จรถง่าย จ่ายเงินง่าย เคลียร์บิลง่าย บริหารง่าย เจาะกลุ่มองค์กรที่ใช้ฟลีท พร้อมเตรียมต่อยอดระบบคำนวณคาร์บอนเครดิต ตอบโจทย์องค์กรที่มุ่ง ESG เพื่อขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ลดต้นทุนพลังงาน รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
‘พีระภัทร ศิริจันทโรภาส’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ RÊVERSHARGER กล่าวว่า บริษัทมุ่งให้บริการด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ตามแนวคิด ‘ครบ-สะดวก-สบาย’ ล่าสุด บริษัทได้พัฒนา ‘EV Fleet Solutions’ โซลูชันสำหรับบริหารจัดการฟลีทยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเป็นรายแรกในไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่องค์กรที่ใช้ยานพาหนะเดินทางและขนส่งจำนวนมาก และช่วยให้องค์กรมีความมั่นใจและความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านรถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial Vehicle) ของตัวเอง เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ง่ายขึ้น
“Pain Point ดั้งเดิมของการเปลี่ยนผ่านสู่ Commercial EV มี 2 เรื่อง คือ 1. ต้องลงทุนเยอะ ทั้งเปลี่ยนรถใหม่ วางแผนเส้นทางเดินรถใหม่ ติดตั้ง EV Charger ความเร็วสูงใหม่ พัฒนาซอฟต์แวร์บริหารจัดการใหม่ 2. ขาดความรู้ในการเปลี่ยนผ่านและโซลูชันที่ครบวงจร เราจึงนำจุดแข็งของเรา 3 เรื่อง 1. ความเข้าใจในตลาด EV 2. เครือข่ายสถานีชาร์จสาธารณะความเร็วสูงในปัจจุบันมากกว่า 1,100 หัวชาร์จ และ 3. ความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี มาพัฒนาเป็นโซลูชันที่ครบวงจร ลดต้นทุนการติดตั้ง EV Charger จำนวนมาก ลดต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์เอง และได้คู่คิดที่ช่วยวางแผน ออกแบบเส้นทางการเดินรถ มีเทคโนโลยียกระดับให้สามารถเปลี่ยนผ่านมาใช้ Commercial EV ได้อย่างมั่นใจ” พีระภัทร กล่าว
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/07/02.SHARGE-EV-FLEET-SOLUTIONS_0-1280x1280.jpg)
สำหรับ EV Fleet Solutions ของ SHARGE ประกอบด้วยบริการ 3 ส่วน ได้แก่ 1. ช่วยคิด ให้คำปรึกษา ออกแบบ วางแผนเส้นทางการชาร์จ และติดตั้ง EV Charger ความเร็วสูงให้เหมาะสมกับเส้นทางเดินรถของแต่ละองค์กร 2. ช่วยแสดงผล พัฒนา Dashboard ที่รวบรวมทุกข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการรถในสังกัดของลูกค้า อาทิ ตำแหน่งรถแต่ละคัน เส้นทางการเดินรถ การใช้พลังงานของรถแต่ละคัน มาแสดงผลแบบ Real-time เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการรถในพอร์ตได้ง่ายขึ้น และ 3. ช่วยลดขั้นตอน นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดภาระทุกขั้นตอนของทั้งองค์กรและผู้ใช้งานรถ ให้ชาร์จง่าย จ่ายง่าย และบริหารจัดการง่าย อาทิ เทคโนโลยี Plug & Charge และระบบเติม Credit Balance ลงทะเบียนผูกบัตรครั้งเดียว หัวชาร์จทุกตู้ทั่วไทยรู้จักรถ ไม่ต้องล็อกอินหน้าตู้ เสียบชาร์จเสร็จ ตัดเงินทันที พร้อมมีระบบวางบิลอัตโนมัติ ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการบัญชีค่าใช้จ่ายง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านระบบฟลีทขององค์กรจากรถพลังงานเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมสู่ EV ได้แก่ 1. รถขนส่งสินค้าและขนส่งอาหาร 2. รถสำหรับใช้ในองค์กร 3. รถเช่าของผู้ให้บริการรายต่างๆ 4. รถในธุรกิจโลจิสติกส์ และ 5. รถสาธารณะ
“ทิศทางและนโยบายทั้งระดับโลกและระดับประเทศต่างหันมาให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านทั้งรถยนต์โดยสารและรถยนต์เชิงพาณิชย์สู่รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ภาครัฐของเราเองก็มีนโยบายมอบสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 1.5-2 เท่า ให้แก่องค์กรที่ซื้อรถบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้ามาใช้ ตอนนี้มีหลายองค์กรที่ต้องการเข้าร่วมการเปลี่ยนผ่าน เพื่อลดต้นทุนค่าพลังงาน รับสิทธิประโยชน์ และช่วยโลกลดคาร์บอน แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจเปลี่ยนผ่าน เราเชื่อมั่นว่าการลุกขึ้นมาแก้ Pain Point ของตลาด และพัฒนาโซลูชันครบวงจรเป็นเจ้าแรกของเรา และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้า Fleet ตัดสินใจเปลี่ยนผ่านได้ง่ายขึ้น” พีระภัทร กล่าวทิ้งท้าย
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/07/03.เครือข่ายสถานีชาร์จ_0-1-1280x854.jpg)
ทั้งนี้ ชาร์จ แมเนจเม้นท์ ยังวางแผนในการต่อยอด EV Fleet Solutions ให้สามารถคำนวณอัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Carbon Credit จากการใช้ EV Fleet ภายในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการขององค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์