ซึ่ง“ขี้ข้า”ประเภทนี้ตัวนายต้องระวังให้จงหนัก เพราะทำตัวนายฉิบหายได้ง่ายๆ เวลาเอาชื่อนายไปอ้างทำอะไรบ้าๆ บอๆ จนถึงเรียกรับผลประโยชน์ ก็อย่างเช่นที่เป็นข่าวในขณะนี้ ที่ไปสัญญาจะขายวุฒิการศึกษาให้พวกอยากได้แสงบ้าง แล้วต่อรองจะเอาไปเป็นคนทำงานให้ฝ่ายการเมือง โดยหลอกให้คนหวังลมๆ โอนเงินไปเรื่อย

ก็เป็นอารมณ์เดียวกับพวกสอบนายสิบ พวกฝากเข้าราชการอะไรพวกนี้ เพราะเหยื่อในปัจจุบันหวังทางลัดเยอะ แบบว่า ถึงอยากแต่ไม่มีวาสนา ไม่มีเส้นสายในสังคมที่คอนเนคชั่นเป็นเรื่องสำคัญ แล้วก็จบลงที่โดน 18 มงกุฎหลอก ก็ต้องไปแจ้งความเอาเอง พอถึงตัวใหญ่สุดที่โดนอ้างเขาก็จะบอก..ไม่รู้เรื่อง ซึ่งรู้หรือไม่แล้วแบ่งเงินกันก็ไม่ทราบ..

ตอนนี้ก็มีคดีฉาวโฉ่อยู่เกี่ยวกับเรื่องที่“คนดีย์”รายหนึ่ง อยู่ๆ ก็โดนแหก ( ภาษาที่เขานิยมใช้ แปลว่า แฉ ) ว่า แอบอ้างชื่อนักการเมืองที่ทำงานในทำเนียบรัฐบาล ว่า จะช่วยวิ่งเต้นให้ไปทำงานตรงนี้ได้ ปรากฏว่า ผู้เสียผลประโยชน์ไม่ยอมแบบว่าจ่ายไปเยอะแล้วได้แต่ลมปากกลับมา ดังนั้น แม่ไม่ยอมแล้ว พังก็ต้องพังไปด้วยกัน

นึกถึงกรณี สว.รายหนึ่ง ที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับการฝาก“ตร.หญิง”เข้าทำงานราชการ เรื่องมันแดงขึ้นมาเพราะ ตร.หญิงนางนั้นก็ไปราวีทหารหญิงอีกทีหนึ่งจนเป็นข่าวดัง พอขุดกันไปขุดกันมาก็พบว่ามีปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษาอีก เพราะสถาบันที่ลงรูปว่า ตร.หญิงไปเรียนบอกไม่ได้จบที่นี่ แต่สุดท้าย บทลงโทษตัว สว.จิ๊บๆ แค่ว่ากล่าวตักเตือน

พร้อมคำแนะนำแบบไม่รู้จะแนะนำทำไมเพราะมันสามัญสำนึก“ตั้งบุคคลช่วยราชการอย่าให้เสียเกียรติยศศักดิ์ศรี”.. แล้วเรื่องนี้ก็เงียบหายไป ตอนนี้กลับมาฉาวโฉ่อีกครั้งเป็นกรณีใหม่ ทั้งเรื่องวุฒิการศึกษาปลอม การวิ่งเต้นเข้าเป็นตำแหน่งทีมงาน สส.,สว. ทีมงานรัฐมนตรี หรือทีมงานฯลฯ อะไรก็ได้ขอเป็นทีมของข้าราชการฝ่ายการเมือง

เชื่อว่า เรื่องแบบนี้มีมานานแล้ว การแต่งตั้งทีมงานหลายครั้งก็มีลักษณะต่างตอบแทน ก็น่าสนใจอยู่ว่า สว.ที่เลือกกันเองเข้ามาเที่ยวนี้ จะมีการตั้งทีมที่ปรึกษา ทีมเลขา คณะทำงานเป็นใครบ้าง แต่ก่อนจะไปถึง สว.ชุดใหม่ จริงๆ สว.ที่จะพ้นเก้าอี้ หรือ สส.ปัจจุบัน รัฐมนตรีปัจจุบันก็น่าสนใจอยู่ไม่หยอก ว่า ทีมงานมีใครหน้าแปลกๆ มาบ้าง

ตอนนี้เมื่อเป็นข่าวแล้ว ..ประกอบกับอารมณ์ของสังคมที่ไม่ค่อยชอบวัฒนธรรมอุปถัมภ์แบบ“เลี้ยงไว้ไปกร่าง” ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่ตั้งข้าราชการการเมือง ตั้งทีมงานได้ ก็ต้องสแกนทีมของตัวเองให้ดีๆ ว่ามีอีประเภทไปตบทรัพย์ใครแลกผลประโยชน์ บอก“ช่วยโน่นนี่ได้” หรือ“ท่านสั่งมา” บ้างหรือไม่

น่าสนใจว่า ทั้งตัวนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ประธานฝ่ายบริหาร ประธานรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานฝ่ายนิติบัญญัติ จะมีการขยับตัวเรื่องนี้หรือไม่ ทั้งการตรวจสอบวุฒิการศึกษาปลอมเพื่อหาโอกาสเข้ามาเป็นฝ่ายการเมือง ไปจนถึงการแอบอ้างเอาชื่อนักการเมืองไปเรียกรับผลประโยชน์ สัญญาว่าจะให้เก้าอี้

ก็ไม่อยากพูดว่า ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯ หรือประธานรัฐสภาหรอก แต่นึกๆ ดูเรื่องนี้มันน่าจะเป็นปัญหาใต้พรมที่มีมานานแล้ว เมื่อมีโอกาสสะสางได้ก็ต้อง“หัวขยับ หางถึงส่าย” มีการมอบนโยบาย การคาดโทษ การออกข้อปฏิบัติอะไรเกี่ยวกับการแต่งตั้งบุคคลมาทำงานด้วย ว่าต้องมีการกลั่นกรองอะไรอย่างไร ถ้าทีมงานทำผิดลงโทษอย่างไร สอบตัวนายหรือไม่

ถ้าสะสางเรื่องพวกหาแสง พวกใช้อำนาจผิดๆ นายกฯ น่าจะได้ใจไม่น้อยเลยนะ.