กรณี 2 คนร้าย ขี่รถจยย.ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์เงินสด 3.3 ล้านบาท ขณะผู้เสียหายเดินทางไปเบิกเงินที่ธนาคาร และกำลังเดินขึ้นรถยนต์ส่วนตัว บริเวณลานจอดรถห้างแมคแวลู ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาล, ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 และ สน.ประเวศ รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับ 1 ในคนร้ายคือ นายนันทพร เพียนทำดี อายุ 35 ปี หรือ ฉายา “บอล ปากแหว่ง” กระทั่งวานนี้ (7 ก.ค.) นายนันทพร หรือ บอล ปากแหว่ง ถูกตำรวจลาวจับกุมได้ที่ประเทศลาว ขณะที่ตำรวจสามารถจับกุมเพื่อนซี้ บอล ปากแหว่ง ได้อีกราย ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

จับอีก! เพื่อนซี้ ‘บอล ปากแหว่ง’ ร่วมวางแผนชิงเงินสด 3.3 ล้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ สน.ประเวศ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.นเรศ ศรีนาราง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ประเวศ และชุดสืบสวน กก.1 บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี จากนั้นพนักงานสอบสวน นำตัวนายจักรพงษ์ หรือแจ๊ค พรหมเสน อายุ 44 ปี 1 ในผู้ต้องหา ออกจากห้องขัง สน.ประเวศ เพื่อมาสอบปากคำที่ห้องประชุม ชั้น 2 โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ และ พล.ต.ต.ธีรเดช สอบปากคำด้วยตนเอง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มอบหมายให้ตน และ พล.ต.ต.ธีรเดช ผู้การสืบสวนนครบาล และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานให้ทางพนักงานสอบสวน ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย โดยรายแรกออกหมายจับตามภาพ 1 ราย ยังไม่ทราบชื่อ คาดว่าเป็นชาวต่างด้าว เป็นคนขี่รถ จยย. ทำหน้าที่พานายนันทพร หรือ “บอล ปากแหว่ง” หลบหนี ส่วนรายที่สอง นายนันทพร เป็นผู้ใช้อาวุธปืน เข้าผลักผู้เสียหายที่เบิกเงิน เข้าไปภายในรถ และจี้ชิงเงิน 2 ถุงไป โดยยืนยันแล้วว่าผู้ต้องหารายนี้คือนายบอล จริง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า จากการประสานงานกับทาง สปป.ลาว พบว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 67 นายบอล ได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง ได้ทองคำหนัก 3 บาท เหตุเกิดที่แขวงคำม่วน ประเทศลาว หลังจากนั้นนายบอล ได้ข้ามกลับมาประเทศไทย โดยในวันที่ 2 ก.ค. มีการติดต่อนัดหมายกับนายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่โรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่ง เพื่อวางแผนก่อเหตุปล้นเงิน ท้องที่ สน.ประเวศ และไปพักที่โรงแรม ย่านนวมินทร์ กทม. ก่อนมาก่อเหตุในวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งล่าสุดสามารถจับกุมนายจักรพงษ์ ได้แล้ว โดยวันเกิดเหตุนายแจ๊ค ได้ขี่รถจยย.เข้าไปจุดเกิดเหตุเวลา 14.09 น. ก่อนจะเกิดเหตุเพียง 2 นาที และจากภาพวงจรปิดพบว่านายบอล กับเพื่อนที่พักอยู่โรงแรมย่านนวมินทร์ เมื่อได้รับการติดต่อก็รีบวางสิ่งของเป็นขนมในมือทิ้งทันทีและรีบขี่จยย.ซ้อนกันไปรอผู้เสียหายเพื่อก่อเหตุปล้นทรัพย์

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายแจ๊ค ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายบอลตั้งแต่ปี 50 เนื่องจากเรียนช่างกลแห่งหนึ่งด้วยกันกับนายบอล ตัวนายแจ๊ค เรียนรุ่น 6 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ส่วนนายบอล รุ่น 15 ระหว่างเรียนมีนายแจ๊ค เป็นประธานสาย คอยพารุ่นน้องจากย่านรามอินทราไปส่งย่านนวมินทร์ทำให้รู้จัก กระทั่งปี 2566 ที่นายบอล ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ และข่มขืน ท้องที่ สน.โชคชัย นายบอล นำพระเครื่องที่ลักมาจากผู้เสียหายไปให้กับนายแจ๊ค นำไปจำนำ หรือขาย ทำให้ขณะนั้นตำรวจตามจับกุมนายแจ๊ค ในข้อหารับของโจรฯ ด้วย

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า ต่อมาในปี 2567 นายแจ๊ค มาทำเกี่ยวกับการถอนเงินเส้นทางดังกล่าวกับเพื่อนร่วมงาน ประมาณ 1 เดือน จนรู้ความเคลื่อนไหวการถอนเงินเข้า-ออก รวมถึงตัวนายบอล มีการติดต่อพูดคุยกับนายแจ๊ค ว่าใครที่มีบัญชีม้าและทำธุรกรรมแบบนี้ จึงอยากมาปล้น เพราะตัวนายบอล อยู่ประเทศลาว ไม่มีรายได้ จึงมีการพูดคุยกันเรื่องวางแผนในการปล้น กระทั่งวันเกิดเหตุ นายแจ๊ค ติดต่อนายบอล เพื่อให้มาดูลาดเลาเฉย ๆ โดยไม่คิดว่าตัวนายบอล จะก่อเหตุทันที โดยการวางแผนครั้งนี้ เมื่อนายแจ๊ค เบิกงานมาแล้ว และส่งให้ผู้รับเงิน ก็ส่งมอบหน้าที่นายบอล ไปปล้นระหว่างทาง แต่ปรากฏว่านายบอล ก่อเหตุตั้งแต่ตอนเบิกเงินทันที ซึ่งไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ หลังจากนั้นนายบอล ก็นำเงินไป แต่ตัวนายแจ๊ค ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ ตำรวจ แต่ยอมรับว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่อเหตุ

รอง ผบช.น. กล่าวว่า ซึ่งตัวนายแจ๊ค ยอมรับว่าจะได้เงินจากการเบิกเงินต่อครั้งละ 2,000 บาท เบิกเกือบทุกวัน โดยยังไม่ทราบว่าเส้นทางการเงินดังกล่าวมีที่มาอย่างไร วันนี้จึงสั่งให้ทางพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน บก.น.4 ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของบัญชีที่มีการถอนเงินออกไป และมีการทำธุรกรรมการเงินจากบัญชีนายแจ๊ค และจะขยายผลต่อเนื่องให้เสร็จ เบื้องต้นวันนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย และออกหมายจับตามภาพ อีก 1 ราย เป็นคนขี่รถจยย.พานายบอล ปากแหว่ง หลบหนี คาดว่าเป็นชาวต่างด้าว พบเส้นทางหลบหนีไปขึ้นรถที่ขนส่งหมอชิต ไปเส้นทาง จ.จันทบุรี อยู่ระหว่างติดตามตัวอยู่ โดยหลังจากนี้จะมีการประสานงานเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากนายบอล ไปกระทำผิดและถูกดำเนินคดีอยู่ที่ประเทศลาว เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป

“พบข้อมูลเบื้องต้นว่า บริษัทฯ ดังกล่าวที่ผู้เสียหายใช้ตรวจสอบพบว่าเป็นบัญชีของคนไทย 3 คน มีการทำธุรกรรมอยู่ที่ จ.เชียงราย, จ.พังงา และ จ.สมุทรปราการ ซึ่งพนักงานสอบสวนและออกหมายเรียกให้ทั้ง 3 คนมาชี้แจงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทั้ง 3 คนก็ไม่มาตามหมายเรียก” รอง ผบช.น. กล่าว