จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดรับฟังความคิดเห็น การเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ ออกจากการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. 67-12 ก.ค. 67

โดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียร องค์กรพัฒนาเอกชนด้านการอนุรักษ์ป่าไม้ ได้โพสต์เปิด 6 ผลกระทบ หากมีการเพิกถอนพื้นที่ อช.ทับลาน ผ่านเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ ดังนี้

  1. หากใช้เส้นแนวเขตสำรวจอุทยานแห่งชาติทับลาน ปี 2543 ตามมติ ครม. เป็นแนวเขตทับลาน อช.ทับลาน จะเป็นการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติกว่า 164,960 ไร่ ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ
  2. กระทบต่อรูปคดีที่กล่าวโทษดำเนินคดีไว้แล้วตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 และอยู่ระหว่างดำเนินการ เป็นนายทุน/ผู้ครอบครองรายใหม่ 470 ราย และเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้ประโยชน์ 23 ราย เนื้อที่กว่า 11,083-3-20 ไร่
  3. เอื้อประโยชน์ต่อนายทุนให้มีการเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนมือเพื่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศเพิ่มมากขึ้น
  4. ลดคุณค่าความเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ: ผืนป่าแห่งนี้เป็นต้นน้ำลำธารที่ไหลหล่อเลี้ยงชุมชนโดยรอบ และเป็นพื้นที่ความหวังในการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง
  5. เปิดโอกาสให้การใช้ประโยชน์ที่ดิน ขุด ถม อัด ตัดไม้ ทำลายสภาพพืชพรรณบริเวณนั้น ผิวดินขาดสิ่งปกคลุมในการรักษาความชุ่มชื้น และช่วยดูดซึมน้ำ จนส่งผลต่อการระบายน้ำตามธรรมชาติและอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมอย่างฉับพลันในบริเวณพื้นที่ราบทางตอนล่างตอนช่วงฤดูฝน
  6. แหล่งที่อยู่อาศัย หากิน หรือเส้นทางอพยพเคลื่อนย้ายของสัตว์ป่า เนื่องจากกิจกรรมมนุษย์เข้าไปรบกวนสัตว์ป่าตามแนวเขตเกินความสามารถในการควบคุมในพื้นที่

ภายหลังต่อมา หลังจากมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ โซเชียลมีเดียจำนวนมากได้ร่วมกันติดแฮชแท็ก #Saveทับลาน พุ่งแทนทวิตเตอร์ (X) ขึ้นอันดับ 1 ในไทย เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านแผนการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานกว่า 265,286.58 ไร่ จนทำให้เกิดเป็นกระแสคัดค้านการปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ว่าแท้จริงแล้ว ปรับแนวเขตเพื่อชาวบ้าน หรือเพื่อนายทุนกันแน่