เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP ของกลุ่มนักวิจัยเสือโคร่ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ว่า วันที่ 6 ก.ค. 67 วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งเดือนที่เสือโคร่งบะลาโกล ที่มีจุดเริ่มต้นจาก อุทยานแห่งชาติคลองลาน ได้ใช้ชีวิตอิสระอีกครั้งในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งมีเสือโคร่งอินโดจีนอาศัยอยู่แต่ไม่หนาแน่นเท่าป่าตะวันตกแหล่งของประชากรเสือโคร่งกลุ่มใหญ่ของไทย

เปิดเหยื่อตัวแรก ‘เสือบะลาโกล’ นักวิจัยเชื่อสร้างความมั่นใจล่าสัตว์ขนาดใหญ่ขึ้น

ครบรอบหนึ่งเดือนที่เสือโคร่งบะลาโกลที่มีจุดเริ่มต้นจาก อช.คลองลาน ได้ใช้ชีวิตอิสระอีกครั้งในพื้นที่ อช.ทับลาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งมีเสือโคร่งอินโดจีนอาศัยอยู่แต่ไม่หนาแน่นเท่าป่าตะวันตก แหล่งของประชากรเสือโคร่งกลุ่มใหญ่ของไทย บะลาโกล ถูกเคลื่อนย้ายมาที่ทับลานด้วยเหตุผลหลักคือ การคืนชีวิตอิสระให้กับมัน ซึ่งเป็นเสือโคร่งป่าโดยกำเนิด ส่วนการเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรมนั้น เป็นประเด็นรองที่จะเป็นประโยชน์ยิ่ง หากมันสามารถดำรงชีวิตและสืบต่อสายพันธุ์ได้ในป่าแห่งใหม่นี้

“หมูหริ่ง” คือเหยื่อตัวแรกที่ยืนยันได้ว่ามันคือ “ผู้ที่ล่าเป็น” แม้ว่ามันได้ผ่านการใช้ชีวิตในกรงเลี้ยงร่วมๆ ร้อยวัน และล่าสุดทีมติดตามได้พบเห็นสิ่งที่ทำให้เชื่อได้ว่า มันนั้น “หากินเป็น” โดยเล่าว่า

“จังหวะที่เดินขึ้นถึงพอยต์ เห็นกองเส้นขนกระจัดกระจายกองเบ้อเริ่ม ผมนี่คิดในใจในทันที บักโก ไปซะแล้วมั้ง” แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด จึงได้รู้ว่ากองเส้นขนที่คล้ายขนเสือนั้น ไม่ใช่ของบะลาโกล แต่ว่าเป็นเส้นขนของสัตว์ชนิดใด คงต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการยืนยัน

การสัญจรร่อนเร่ของบะลาโกลในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการวนเวียนในใจกลางของพื้นที่ เมื่อนำตำแหน่งการเคลื่อนที่มาลากเส้นเชื่อมต่อกัน จึงได้รู้ว่า การเดินทางในช่วงเวลาที่ผ่านมาครอบคลุมพื้นที่ 53 ตารางกิโลเมตร

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา บะลาโกลได้เดินสำรวจพื้นที่ขยับเข้าใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ตอนใต้ของพื้นที่ เป็นเหตุให้ทีมติดตามต้องใช้เรือเป็นพาหนะเพื่อร่นระยะทางและเวลาในการเดินทาง หลังจากที่ขึ้นบกได้ใช้เวลาอีก 3 คืน 4 วัน จึงได้ไปเจอกองเส้นขนคล้ายขนเสือดังกล่าว

ทุ่มกว่าๆ ขณะสาละวนกับมื้อเย็น ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “พิกัดบะลาโกลขยับออกมาใกล้ปากอ่างเก็บน้ำแล้ว เข้าพื้นที่เลยมั้ยครับ“ เป็นเหตุให้เกิดการปฏิบัติการฉุกเฉินในทันทีหลังจากอิ่มมื้อเย็น ทีมติดตามเปลี่ยนเป็นทีมเฝ้าระวังชั่วคราว กระทั่งเที่ยงคืน มั่นใจว่าบะลาโกลไม่สนใจเดินมาทางที่ตั้งชุมชน จึงยกเลิกการเฝ้าระวัง

บทสนทนาขณะเก็บอุปกรณ์เพื่อเดินทางกลับที่พัก “โชคดีจังที่ บะลาโกลไม่มาทางนี้ สงสัยเสียงเพลงจากคาราโอเกะบ้านนั้นคงไม่น่าฟัง”

“โอโห ขนาดพวกเรายังแทบต้องจ้างให้เลิกร้อง ประสาไรกับบะลาโกลเลี่ยงได้มันต้องเลี่ยงแน่”
…..

“เดือนหนึ่งนี่ บะลาโกลมันจัดมาให้เกือบครบทุกประสบการณ์เลยเนอะ ตามกลางวัน เฝ้ากลางคืน ตามทางบก ตามโดยเรือ”

“พรุ่งนี้ผมจะขับเรือเองละ เพราะเคยขับรถไถมาก่อน แล้วถ้าจะต้องตามทางอากาศ เดี๋ยวผมจะให้ปู่เดฟสอนขับเครื่องบินเลย ผมไม่ยอมแพ้มันแน่“

“แต่เดี๋ยวก่อนนะ จะเอาเครื่องบินที่ไหนมาก่อน”

บทสนาส่งท้ายที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แม้ว่าจริงแล้วอ่อนเพลียกันถ้วนหน้า #บะลาโกล เสือคลองลานสู่ทับลาน #สถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่.

ขอบคุณภาพและข้อมูล เฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP