ลองจินตนาการดูว่า คุณกำลังเดินเล่นบนชายหาดทรายขาวละเอียด ใต้ท้องฟ้าสีครามสดใส หรือกำลังเดินป่าท่ามกลางป่าเขียวขจี สูดอากาศบริสุทธิ์ กำลังลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแปลกใหม่ กำลังพูดคุยกับผู้คนจากต่างวัฒนธรรม เรียนรู้วิถีชีวิตใหม่ๆ กำลังชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม ถ่ายรูปเก็บความประทับใจ ประสบการณ์เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้คุณเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่มีมุมมองกว้างขึ้น

ดังนั้น ‘การออกเดินทาง’ จึงไม่ได้เป็นเพียงการไปเที่ยวชื่นชมสถานที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการเรียนรู้ครั้งใหญ่ เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา เรียนรู้ที่จะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรม ยิ่งออกไปสัมผัสโลกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งค้นพบตัวเองมากขึ้นเท่านั้น

ทว่าหากกล่าวถึง ‘การเดินทางท่องเที่ยวในปัจจุบัน’ ที่สังคมกำลังเผชิญวิกฤตการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างมิอาจหยุดยั้ง การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วน ทั้งในภาคธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ ห้างร้านต่างๆ รวมถึงภาครัฐเอง จะต้องตระหนักและให้ความสำคัญเพื่อปรับตัวในการนำอุตสาหกรรมดังกล่าวไปสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ

ดังที่ ‘การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ (ททท.) ร่วมกับ เครือข่ายพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน เตรียมจัดงานเทศกาล ‘Amazing Green Fest 2024’ และงานเสวนา ‘The Hotelier 2024’ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ททท. ในการผลักดัน ‘การท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม’ ส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กร ผู้ประกอบการภาคเอกชนและชุมชน ที่ดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยทั้ง 2 งานจะจัดขึ้นในวันที่ 15-18 สิงหาคม 2567 ที่ พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร

“การผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นภารกิจสำคัญที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดำเนินการมาหลายสิบปีแล้ว และยังทำอย่างต่อเนื่อง ททท. จำเป็นที่จะต้องให้การสนับสนุน ส่งเสริมผู้ประกอบการภาคเอกชน ชุมชน กลุ่มคน ทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดคือตัวนักท่องเที่ยวเอง ททท. จึงพยายามใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือให้นักท่องเที่ยว มีความรู้ ความเข้าใจในการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จนท้ายที่สุดตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตนที่จะต้องมีส่วนช่วยกันดูแลโลกต่อไป” ‘น้ำฝน บุณยะวัฒน์’ รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าว

นอกจากนี้ น้ำฝนยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ททท. เชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับ ‘The Cloud’ สื่อในรูปแบบแมกกาซีนออนไลน์ในประเทศไทย ภายใต้ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์การจัดงานด้านความยั่งยืนมาแล้ว และจะมารับหน้าที่ในการรังสรรค์ Amazing Green Fest 2024 ครั้งนี้ จะไม่เป็นพียงภาพของความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน อย่างผิวเผิน แต่จะเป็นการปลูกฝังแนวความคิดและวิธีการทำงาน ที่จะเป็นรากฐานให้กับการจัดงานครั้งต่อไปของทั้งสองหน่วยงานในอนาคต

ด้าน‘ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลังต้นแบบการจัดอีเว้นท์ด้านความยั่งยืน กล่าวว่า The Cloud ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนซึ่งเป็นวาระเร่งด่วนระดับโลก โดยมิติที่บริษัทฯ มุ่งสื่อสารอย่างต่อเนื่องคือ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ จึงได้ร่วมกับททท. และพันธมิตรด้านความยั่งยืนจัดงาน  Amazing Green Fest 2024 ซึ่งนับเป็นเทศกาลด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนครั้งแรกที่ไม่เพียงแต่มีการออกบูธของผู้ประกอบการ แต่ยังตั้งใจสร้างชุมชนสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมถึงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปตระหนักว่า ความยั่งยืนเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัว นำมาปรับใช้ในชีวิตได้จริง  

ขณะที่ ‘ทรงกลด บางยี่ขัน’ บรรณาธิการบริหาร The Cloud กล่าวว่า โรงแรมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ดังนั้นงานนี้จึงอยากจะมีส่วนร่วมในการยกระดับโรงแรมไทยสู่ความเป็นสุดยอดด้วยการเพิ่มมิติด้านความยั่งยืน ผ่านการจัดเวทีเสวนา The Hotelier 2024 ซึ่งชวนผู้ประกอบการโรงแรมตั้งแต่เครือโรงแรมห้าดาาวระดับโลก เครือโรงแรมชั้นนำของไทย โรงแรมบูติกไทย ไปจนถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ขึ้นเวทีมาแบ่งปันประสบการณ์ใน 10 ด้าน เช่น การทำโรงแรมที่ยั่งยืน, การสร้างแบรนด์, การออกแบบ, การดึงดูดด้วยอาหาร, วิธีคิดใหม่ในการสร้างรายได้, ที่พักแนวประสบการณ์, อนาคตของโรงแรมบูติก และ อนาคตของที่พักแนว Medical & Wellness”

สำหรับ Amazing Green Fest 2024 ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวยั่งยืน ชิมอาหารจากร้านอาหารที่คัดสรรมาอย่างดี รับฟังการแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้ประกอบการ / กลุ่มคน ที่ทำงานเพื่อความยั่งยืนตั้งแต่เหนือจรดใต้ และเรียนรู้เรื่องราวการทำงานเกี่ยวกับการผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ ททท. โดยมีเจ้าของโครงการมานำเสนอด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีสนามเด็กเล่นรูปแบบใหม่ และแพกเกจท่องเที่ยวจากชุมชนและรายการนำเที่ยวที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards ให้เลือกซื้อเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ผ่านการพบกับ 6 โซนกิจกรรมภายในงาน กับการถ่ายทอดเรื่องราวความยั่งยืนตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ เชิญชวนให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปด้วยกัน

นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวจะได้พบวิทยากรจากโรงแรมชั้นนำมากมาย เช่น ดุสิตธานี ,ชีวาศรม, CROSSROADS Maldives, Eastin Grand Hotel Phayathai, THANN Wellness, Trisala, Sela, Thai Fight Hotel นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือไปเยี่ยมชมโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเวิร์คช็อปการจัดการขยะที่โรงแรม Sivatel อีกด้วย

ทั้งนี้ ททท. ยังเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการในการเปลี่ยนผ่านสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน เป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย 1. การส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเข้าใจและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสมดุลในทุกมิติ 2.การสร้างมาตรฐานระดับประเทศ เพื่อแสดงถึงคุณค่า และเชิดชูผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นยกระดับการท่องเที่ยวยั่งยืน 3. การเข้าสู่มาตรฐานระดับนานาชาติ เพื่อวางรากฐานให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับมาตรฐานสากล