เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ สน.ประเวศ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ พร้อมชุดสืบสวน บช.น., บก.น.4 และ สน.ประเวศ เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี 2 คนร้าย จี้ชิงทรัพย์ 3.3 ล้าน บริเวณลานจอดรถห้างแม็กซ์แวลู ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ (3 ก.ค.) ผู้เสียหายได้มอบหมายให้ลูกจ้าง 3 คน ไปเบิกเงินจากธนาคาร โดยธนาคารแรกคือธนาคารกรุงเทพ เบิกเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท โอนให้นายจ้างเรียบร้อย ต่อมาได้ไปเบิกอีก 2 ธนาคาร คือธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ตามลำดับ รวมเงินทั้งสิ้นจาก 2 ธนาคาร จำนวน 3.3 ล้านบาท จากนั้นได้ทำการเดินออกจากธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมถุงเงินสด แต่ปรากฏว่าถูก 2 คนร้าย ผลักเข้าไปในรถ พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ ก่อนนำเงินออกจากรถไป

โดยวานนี้ (5 ก.ค.) ทางสืบ บช.น., บก.น.4 และสืบ สน.ประเวศ ได้รวบรวมข้อมูลจนทราบตัว 1 ในคนร้ายคือ นายนันทพร เพียนทำดี อายุ 35 ปี หรือ ฉายา “บอล ปากแหว่ง” ที่เป็นผู้ใช้อาวุธปืนจี้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลอันตรายที่เคยจับกุมตั้งแต่เดือน พ.ย. 51 โดยถูกดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร โดยใช้วิธีการดักจี้เหยื่อ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนหนุ่ม โดยทำการชิงทรัพย์และพาผู้หญิงไปข่มขืน พ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 66 ต่อมาเดือน ธ.ค. 66 ได้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเราในพื้นที่ สน.โชคชัย โดยมีการจี้ผู้หญิงที่มาจอดรถอัลพาร์ด ที่นอนหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนขับพาผู้หญิงไปกระทำชำเรา และทิ้งผู้หญิงลงข้างทาง ชิงรถอัลพาร์ดไป ซึ่งเจ้าตัวยังหลบหนีหมายจับ จนกระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า และสำหรับตัวผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย ที่เป็นคนขับขี่รถให้นายบอลหลบหนีในวันเกิดเหตุ จะติดตามขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป นอกจากนี้คดีดังกล่าว ยังมีความน่าสงสัยในเรื่องที่มาของเงินในการไปเบิกว่ามาจากไหนอย่างไร จึงได้มีการมอบหมายให้สืบ บก.น.4 และ สน.ประเวศ ให้ไล่เส้นทางการเงินจากธนาคาร รวมถึงบริษัทที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ว่าเงินที่ได้มาเป็นเงินที่ถูกกฎหมายหรือไม่

ฝ่ายสืบสวนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังอีก ที่เป็นผู้ชี้เป้าหรือแจ้งข่าวต่างๆ ในส่วนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี หรือให้ที่พักพิงแก่นายบอล จะต้องได้รับโทษเช่นกัน

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า นายบอล ปากแหว่ง เคยถูกจับกุมสมัยที่ผมยังเป็นสารวัตรที่กองบังคับการปราบปราม ขณะทำการจับกุม มีการต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นแล้ว ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยร้าย หากผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือยิงสู้ เจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้มาตรการตอบโต้ได้เลย ฝากถึงประชาชนหากมีเบาะแสถึงนายบอล สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่หรือทางเพจสืบนครบาล IDMB