สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการของสถานีโทรทัศน์เอบีซี นิวส์ ออกอากาศเมื่อคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ในอเมริกา
รายการดังกล่าวออกอากาศในช่วงเวลา “ประจวบเหมาะ” กับการที่ไบเดนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากหลายฝ่าย ให้ถอนตัวออกจากการสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ และพรรคเดโมแครตคาดหวังให้รายการนี้ช่วยฟื้นคืนความเชื่อมั่น และคะแนนนิยมของผู้นำสหรัฐในสายตาประชาชนได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ตามมากลับกลายเป็นว่า “ไม่น่าช่วยได้มากนัก” เนื่องจากผู้นำสหรัฐวัย 81 ปี ยังคงกล่าวโทษ “อาการป่วย” ว่าเป็นต้นเหตุให้ทำผลงานย่ำแย่ บนเวทีดีเบตกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ไบเดนยืนกรานว่า ตัวเองคือ “บุคคลเหมาะสมที่สุด” ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ และเน้นย้ำว่า จะสามารถชนะทรัมป์ได้อีกครั้ง หลังมีชัยเหนืออีกฝ่ายมาแล้ว เมื่อปี 2563
นอกจากนั้น ผู้นำสหรัฐกล่าวถึงการเรียกร้องของหลายฝ่าย รวมถึงจากทรัมป์ ให้เขาเข้ารับการทดสอบสมรรภาพทางปัญญา เพื่อประเมินภาวะสมองเสื่อม ว่าการปฏิบัติหน้าที่บริหารประเทศทุกวันนี้ คือการทดสอบทางปัญญาอยู่แล้ว
แต่บรรดานายทุนของพรรคเดโมแครต รวมถึง นางอบิเกล ดิสนีย์ ทายาทตระกูลดิสนีย์ นายเดมอน ลินเดลอฟ นักเขียนบทและผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ และนายรีด แฮสติงส์ ผู้ร่วมก่อตั้งเน็ตฟลิกซ์ ต่างออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว ส่วนนายไมค์ คีกลีย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 4 รัฐอิลลินอยส์ เป็นสมาชิกแถวหน้าคนล่าสุดของพรรคเดโมแครต ซึ่งเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว
ด้านผลสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน จัดทำโดยเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทรัมป์ วัย 78 ปี มีคะแนนนิยมนำทิ้งห่างไบเดนมากขึ้นเป็น 6 จุด.
เครดิตภาพ : AFP
