เมื่อวันที่ 5 ก.ค. พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดหาเรือดำน้ำ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีนของกองทัพเรือว่า ได้ลงนามโครงการเมื่อปี 2560 ข้อตกลงระหว่างรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน การจ่ายเงินมีทั้งหมด 18 งวด ได้จ่ายไปแล้ว 10 งวด หรือคิดเป็น 60% เป็นจำนวนเงิน 7,700 ล้านบาท และยังคงค้างจ่าย 40% หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 5,500 ล้านบาท ปัจจุบันการสร้างเรือดำน้ำให้กับกองทัพเรือไทยเสร็จสิ้นไปแล้ว 64% ยืนยันว่าเรือดำน้ำมีความจำเป็น เพื่อรักษาอธิปไตยทางทะเล และปกป้องทรัพยากรทางทะเลมูลค่า 24 ล้านล้านบาท รวมถึงเส้นทางคมนาคมทางทะเล

พล.ร.อ.ชลธิศ กล่าวต่อว่า หลังจากที่กองทัพเรือ ได้ร้องขอให้ผู้มีอำนาจในการแก้ไข เรื่องจัดการซื้อเรือดำน้ำ ที่มีด้วยกัน 2 ประเด็น คือ 1.กองทัพเรือขอแก้ไขข้อตกลง ปัญหา โดยการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อนกำเนิดไฟฟ้า จากรุ่น MTU 396 เป็นเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีน CHD620 และ 2.ขอขยายระยะเวลาการส่งมอบเรือดำน้ำตามโครงการออกไป เป็น 1,217 วัน และหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆหลังจากนี้ ขอให้มอบอำนาจให้กับทางกองทัพเรือสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารเรือ ไปลงนามในการแก้ไขข้อตกลง ล่าสุด นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ลงนามในหนังสือจากกระทรวงกลาโหม เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อขอแก้ไขข้อตกลงการแก้ไขเรื่องเรือดำน้ำของทหารเรือ ที่ได้เสนอไป 2 เรื่องดังกล่าวแล้ว

พล.ร.อ.ชลธิศ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้เมื่อประกอบเสร็จก็จะมีการทดสอบที่โรงงาน แล้วเอาไปติดตั้งในเรือเพื่อทำการทดสอบอีกครั้ง ก่อนจะเอาเรือลงไปทดลองใช้ในทะเลจริง และต้องดำไปใต้น้ำ 300 เมตร ต้องผ่านขั้นตอนพวกนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เราถึงจะยอมรับเรือ ซึ่งขณะนี้สรุปแล้วเราจะได้เรือดำน้ำตามที่ ครม.อนุมัติ 1 ลำ จากทั้งหมด 3 ลำไว้สำรองทดแทน ส่วนการผลิตของจีนเราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจเมื่อเสร็จแต่ละงวดงาน และเราก็จะจ่ายเงินตามงวดงาน โดยคาดว่าเรือดำน้ำจะมาถึงไทยประมาณเดือนม.ค.ปี 2571

“ยืนยันว่าเรือดำน้ำนี้ด้วยเทคโนโลยีนี้ จีนก็ยังใช้เรือรุ่นนี้อยู่ ฉะนั้นผมมั่นใจว่าเรือรุ่นนี้มีคุณสมบัติและขีดความสามารถ และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันของเรือดำน้ำ ยังไม่ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ฉะนั้นถามว่าช้าหรือไม่ที่เราได้รับ ยอมรับว่าช้า แต่ถามว่ายังใช้ต่อไปได้อีก 30-40 ปีได้หรือไม่ มั่นใจว่าใช้ได้”พล.ร.อ.ชลธิศ กล่าว.