นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการให้สัมภาษณ์ต่อภาษณ์สื่อมวลชนของนายเศรษฐพุฒิ สิทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 4 กรฎาคม ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลต้องขอบคุณมากที่ท่านผู้ว่า ธปท. เข้าใจดีว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ยากที่จะกลับไปเติบโตเท่ากับช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนพบกับความลำบาก มีหลุมรายได้ รายได้ไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายจ่ายค่าครองชีพสูงขึ้น อีกทั้งยังเห็นสอดคล้องกับทิศทางของรัฐบาลในการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างอุตสาหกรรมของไทยที่เป็นอุตสาหกรรมเก่าแข่งขันได้ยาก ไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้สูงขึ้น

“สิ่งที่ท่านผู้ว่า ธปท. กล่าวมานี้สอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาล ที่รัฐบาลดำเนินการมาตลอดคือ มองไปข้างหน้า พยายามปรับโครงสร้างภาคการผลิต อีกทั้งพยายามเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทั้งจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพิ่มความสามารถด้านทักษะแรงงานของไทย ซึ่งรัฐบาลทราบดีว่า ไทยต้องพัฒนาเพื่อดึงดูดการลงทุน ยกระดับการพัฒนา และนี่เป็นวิสัยทัศน์ในการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งปรับการดึงดูดการลงทุนให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค” นายชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี มาตรการระยะสั้นที่จะช่วยเหลือดูแลประชาชนในการดำรงชีวิตได้อย่างทันท่วงทีก็เป็นประเด็นที่ รัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อช่วยเหลือดูแลการดำรงชีวิตของประชาชน ให้สามารถประคองตัวเองไปได้จนถึงวันที่ โครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยได้เปลี่ยนผ่านไปสู่ความทันสมัยแล้ว และต้องขอบคุณผู้ว่า ธปท. ที่ท่านมองว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตกว่านี้ได้ แม้ว่าท่านจะมองว่าศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกิจไทยจากนี้ไปจนถึงปี 2571 จะเติบโตได้ไม่เกินปีละ 3% ซึ่งในประเด็นนี้รัฐบาลต้องขอน้อมรับความท้าทาย ด้วยการมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักและทำงานด้วยทัศนคติที่เป็นบวกอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่แบกความหวังของประชาชนที่ฝากเอาไว้ เพื่อทำให้ประชาชนคนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนท่านผู้ว่า ธปท. คิดบวกร่วมกับรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ หวังว่าท่านผู้ว่า ธปท. จะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างสมดุลและสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามที่รัฐบาลได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชนอย่างถ้วนหน้า