เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 5 ก.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังที่บ้านหัวควนใต้ อำเภอกะทู้  จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ดินสไลด์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และอธิบดีกรมทางหลวง ร่วมคณะ  เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่  เนื่องจากที่มีฝนตกหนักหลายวันทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหว จนเป็นเหตุให้ดินสไลด์หลายจุด อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจเบื้องต้นมีอย่างน้อย 18 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ 

โดยนายกฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ แก้ปัญหาที่จำเป็นและเร่งด่วนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเรื่องของการทำฟลัดเวย์หรือทางระบายน้ำ ซึ่งนายกฯ ได้ขอแผนที่ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงดินสไลด์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อไปหารือกับนายจตุพร  บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวางแนวทางป้องกันทั้งระยะสั้น ระยะกลาง  และระยะยาว  เพราะจะต้องเร่งดำเนินการในระยะสั้น เพราะช่วงนี้ฝนก็ตกตลอดและยาวไปจนถึงเดือนกันยายน ต้องหาแนวทางป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด

ขณะที่ชาวบ้านได้เล่าถึงเหตุการณ์ดินสไลด์ พร้อมระบุว่า อยู่มา 60 ปีเพิ่งเคยมีดินสไลด์ในครั้งนี้ และขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่มาดูปัญหาด้วยตนเอง

จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาดูสถานที่จริงแล้ว มีหลายมาตรการที่ต้องทำ  โดยระยะสั้นเราต้องมาดูว่าพื้นที่ตรงนี้ เพราะช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ฝนจะมีปริมาณมากกว่านี้อีก เพราะชาวบ้านบอกว่าอยู่ที่นี่มากว่า 60 ปีไม่เคยเจอ พอมาเจอหนหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ และเราก็ไม่อยากตั้งอยู่บนความประมาท เพราะฉะนั้นเรื่องของการทำฟลัดเวย์  เรื่องการขยายร่องน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำล้นออกมาจนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านนี่คือการแก้ปัญหาระยะสั้น

นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนระยะกลาง ระยะยาว จะต้องมีการตั้งศูนย์เตือนภัย แต่ชาวบ้านบอกว่าน้ำมาเร็ว แต่การเตือนภัยก็อาจจะช่วยได้บ้าง สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องมาดูแผนที่ทั้งหมด ว่าจุดที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินถล่ม ไม่ใช่แค่เพียงพื้นที่ตรงนี้เพียงพื้นที่เดียว เพราะเท่าที่ดูจากแผนที่จากอธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีอีกหลายจุด อย่างน้อย 7-8 จุด ที่เราต้องดูแลทั้งการทำฝาย ฟลัดเวย์ เขื่อน หรือขั้นบันได เพื่อชะลอการไหลของน้ำให้ช้าลง ซึ่งตรงนี้เป็นแผนระยะกลางและระยะยาว

‘นายกฯ’ เดินลุยฝนลงดูพื้นที่ดินสไลด์ภูเก็ต สั่งเร่งทำฟลัดเวย์ 

เมื่อถามว่า บ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดดินสไลด์ จะมีแนวทางป้องกันหรือช่วยเหลืออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็จะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะต้องเร่งแก้ไข ในเขตที่มีความสุ่มเสี่ยง แผ่นดินถล่ม และต้องมาศึกษาและดูว่า เราจะมีการแก้ไขได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้ามีหนทางแก้ไขได้ก็จะไม่กระทบกับชาวบ้าน

เมื่อถามต่อว่า การบริหารจัดการของจังหวัดที่สามารถแก้ปัญหาได้ภายในวันเดียว มีความพอใจแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก 60 ปีไม่เคยเจอ ก็เห็นใจ แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ วันนี้เราควรมองไปข้างหน้ามากกว่า เมื่อเข้าช่วงต้นฤดูฝนเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นมาแล้ว ช่วงกลางและช่วงปลายฝนจะชุกมากกว่านี้ เราจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก  และไม่ใช่ดูแค่พื้นที่ตรงนี้เพียงแห่งเดียว ยังมีพื้นที่สุ่มเสี่ยงอีกจำนวนมาก คืนวันเดียวกันนี้จะได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพ บริหารจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด 

เมื่อถามอีกว่า จะมีการนำแผนพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 54 จังหวัดเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเร่งผลักดันให้เสร็จโดยเร็วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องเร่งด่วน ตนเชื่อว่าข้าราชการทุกคน เข้าใจถึงความเร่งด่วนอยู่แล้ว แต่ต้องทำให้รอบคอบและสามารถควบคุมได้ทั้งหมด ซึ่งตนเชื่อว่าทั้งปลัดและอธิบดี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ดูแลอย่างเต็มที่

เมื่อถามด้วยว่า พื้นที่ลุ่มต่ำมีบ้านเรือนของประชาชนปลูกสร้างขวางทางน้ำจะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าต้องยึดตามกฎหมาย และแผนการก่อสร้างจะต้องเชื่อมต่อกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด แต่อย่างไรก็ตามในแผนการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหา ต้องดูทั้งหมด ทั้งเรื่องฟลัดเวย์ การขยายทางเดินน้ำใหม่

จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางมาติดตามการระบายน้ำที่คลองระบายน้ำบริเวณหน้าไปรษณีย์กมลา  โดยจุดนี้มีประชาชนที่ทราบข่าวว่านายกฯ ลงพื้นที่ได้ตะโกนเรียกนายกฯ และขอถ่ายรูปด้วยความดีใจ.