การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2024 ที่เยอรมนี เป็นเจ้าภาพ ประจำวันเสาร์ที่ 6 ก.ค. เป็นรอบก่อนรองชนะเลิศหรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย มีด้วยกัน 2 คู่ ถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV36 (หมายเลข 36) ออกสตาร์ตคู่แรก เวลา 23.00 น. “สิงโตคำราม” อังกฤษ เจอกับ “แดนนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ แข่งกันที่สนามดุสเซลดอร์ฟ อารีนา จากนั้นเวลา 02.00 น. “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ เจอกับ “ไก่งวง” ตุรกี ดวลกันที่สามโอลิมเปีย สตาดิโอน ในกรุงเบอร์ลิน

*สิงโตคำรามเปลี่ยนแผนใหม่
แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือทีม “ทรี ไลออนส์” หลังจากเฉือนชนะสโลวาเกีย 2-1 ในรอบที่แล้ว ทดลองใช้ระบบหลัง 3 คนในการซ้อม ทำให้คาดว่าเตรียมปรับแทคติกจาก 4-2-3-1 หันมาใช้ระบบหลัง 3 ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็น 3-4-3 หรือ 3-5-2 เนื่องจากแนวรับไม่มี มาร์ค เกฮี ติดโทษแบน คาดว่ากองหลังจะเป็น จอห์น สโตนส์, เอสซรี คอนซา และ ไคล์ วอล์คเกอร์ หุบเข้ามายืนข้างใน ส่วนตำแหน่งวิงแบ๊กอาจเป็น ลุค ชอว์ ประเดิมสนามและอีกฝั่ง คีแรน ทริปเปียร์ หรือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

ส่วนแดนกลาง เดแคลน ไรซ์ เป็นตัวยืนจะคู่กับ จูด เบลลิงแฮม หรือ ฟิล โฟเดน หรืออาจเป็น คอบบี เมนู หรือ คอนนอร์ กัลลาเกอร์ ที่จะช่วยเกมรับได้มากกว่า ขณะที่เกมรุก แฮร์รี เคน อาจได้เล่นคู่กับ ไอแวน โทนีย์ ถ้าเลือกใช้ระบบกองหน้าคู่ หรืออาจให้ บูกาโย ซากา และ ฟิล โฟเดน หรือ โคล พาลเมอร์ เป็นตัวบุกด้านข้าง

*สโตนส์บอกเล่นแผนไหนก็ได้
จอห์น สโตนส์ กองหลังจาก แมนฯ ซิตี เผยเองว่าอังกฤษจะไม่มีปัญหาหากเปลี่ยนแผนใหม่เป็นระบบหลัง 3 ที่ แกเรธ เซาธ์เกต เคยใช้ในยูโร เมื่อ 3 ปีก่อนที่เอาชนะ เยอรมนี 2-0 ในรอบ 16 ทีม และใช้ในนัดชิงชนะเลิศกับอิตาลี

สโตนส์ กล่าวว่า อังกฤษเคยเล่นแผนนี้มาก่อน อย่างที่ตนจำได้ในยูโรครั้งก่อน การมีแผนเตรียมไว้เป็นเรื่องดีหากจำเป็นต้องเล่นในระบบนั้น ทีมจะมีการซ้อมและมีเวลาในการปรับแต่งให้มันคลิกเข้าด้วยกัน หวังว่ามันจะราบรื่น

*แข้งเมืองนาฬิกากำลังคึกคัก
ด้าน สวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การนำของ มูรัต ยาคิน กำลังคึกคักผ่านเข้ารอบมาด้วยการชนะแชมป์เก่าอิตาลี 2-0 กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจมาก ไม่แพ้มาแล้ว 8 นัดติดต่อกัน มีข่าวดีที่ กรานิต ชากา กัปตันทีมจากเลเวอร์คูเซน ผ่านความฟิตพร้อมลงเล่น ขณะเดียวกันก็จะได้ ซิลวาน วิดเมอร์ พ้นโทษแบนกลับมาเล่นในตำแหน่งวิงแบ๊กขวา ทำให้ ยาคิน ต้องตัดสินใจว่าจะหั่นใครออกจากตัวจริง อาจถอด แดน เอนดอยล์ ออกมาให้ขึ้นไปเป็นตัวรุกร่วมกับ ฟาเบียน รีเดอร์ โดยมี บรีล เอมโบโล เป็นกองหน้าตัวเป้า

*สถิติสิงโตคำรามขี่มาก
สถิติเจอกันมาทั้งหมด 27 ครั้ง อังกฤษ ชนะ 19 เสมอ 5 แพ้ 3 แต่ไม่แพ้สวิสเลยมานาน 43 ปี นับตั้งแต่ปี 1981 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งก่อนแพ้เกมนั้นอังกฤษก็ไม่แพ้มา 10 นัดติดต่อกัน โดยนับตั้งแต่ปี 1981 “สิงโตคำราม” ไม่แพ้มา 13 เกมติด (ชนะ 10 เสมอ 3) ครั้งล่าสุดเป็นการชนะ 2-1 ที่เวมบลีย์ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อปี 2022 โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของออพตาประมวลผลให้อังกฤษมีโอกาสผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมากถึง 65.12% และสวิสมีโอกาส 34.88%

*กังหันลมฟัดเกือกตุรกี
คู่ต่อมาเวลาตี 2 โรนัลด์ คูมัน กุนซือของ “กังหันลม” เนเธอร์แลนด์ เตรียมนำทีมเจอกับตุรกี โดยรอบที่แล้วสวยหรูทั้งฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันที่เอาชนะโรมาเนีย 3-0 คาดว่าจะยึดแผนเดิม 4-2-3-1 ไม่มีผู้เล่นเจ็บหรือแบน โดยจะเปลี่ยนแค่ สตีเวน เบิร์กไวน์ ออกแล้วให้ ดอนเยลล์ มาเลน ทำหน้าที่แทนในตำแหน่งตัวรุกด้านขวา นอกนั้นเหมือนเดิม แนวรับ เดนเซล ดัมฟรีส์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, สตีเฟน เดอ ฟรายจ์ และ นาธาน อาเก ตรงกลาง เจอร์ดี ชูว์เทน, ติยานี ไรจ์นเดอร์ส อยู่หลัง ซาวี ซิมมอนส์, โคดี กัคโป, มาเลน และ เมมฟิส เดอปาย เป็นกองหน้า

*ไก่งวงจุกนักเตะแบน3ราย
ขณะที่ ตุรกี ภายใต้การนำ วินเชนโซ มอนเตลลา เฮดโค้ชชาวอิตาลี นัดที่แล้วเฉือนชนะออสเตรียระทึก 2-1 มีข่าวดีที่กัปตันทีม ฮาคาน ซัลฮาโนกลู และ กองหลัง ซาเมต อคายดิน พ้นโทษแบนสามารถกลับมาช่วยทีม แต่ข่าวร้าย ออร์กุน กอคชู และ อิสมาอิล ยุคเซค สะสมใบเหลืองครบโควตา ควงกันติดโทษแบน ซ้ำร้ายด้วย เมริห์ เดมิรัล กองหลังตัวเก่งดันทำไปท่าฉลองอิงการเมือง หลังยิงประตูได้ในเกมก่อนโดนลงโทษไปอีกราย ทำให้ตุรกีโดนแบนนัดนี้ถึง 3 คน

ซัลฮาโนกลู แทนตำแหน่ง กอคชู อยู่แล้ว และ ซาลิห์ ออซคา น่าจะคู่กับ คาน อายฮาน ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนแนวรับ ซาเมต อคายดิน จะจับคู่กับ อับดุลเคริม บาร์ดัคชี ส่วนสามตัวรุกชุดเดิม นำโดย อาร์ดา กูแลร์ และ เคนาน ยิลดิซ สองดาวเตะวัย 19 ปี และ บาริส อัลเปอร์ ยิลมาซ เป็นกองหน้า

*สถิติดัตช์ดีกว่าเพิ่งยิงครึ่งโหล
สถิติเจอกันมาทั้งหมด 14 ครั้ง ทีมแข้งดัตช์เหนือกว่าเล็กน้อย ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 4 รวมถึงการเจอกันครั้งล่าสุดสามารถถล่มตุรกีขาดลอย 6-1 เมมฟิส เดอปาย ทำแฮตทริก ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เดือน ก.ย. ปี 2021 อย่างไรก็ตาม 2 หนก่อนหน้านั้น ตุรกีชนะทั้งสองเกมในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เดือน มี.ค. ปี 2021 และในยูโร รอบคัดเลือก เมื่อปี 2015 อีกทั้งรอบก่อนหน้านี้การที่ตุรกีสามารถชนะออสเตรีย 2-1 นับเป็นการล้างแค้นจากที่เคยแพ้ออสเตรีย 1-6 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ตุรกีมั่นใจว่าจะสามารถล้างแค้นคู่แข่งเนเธอร์แลนด์ได้ในเกมนี้ ขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของออพตาประมวลผลให้เนเธอร์แลนด์ มีโอกาสชนะ 61.24% และ ตุรกี มีโอกาสเข้ารอบ 38.76%.