เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เวลา 10.15 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม พร้อมกลุ่มผู้สมัคร สว.กลุ่ม 3 กลุ่มการศึกษา และกลุ่ม 14 กลุ่มสตรี เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอทราบความคืบหน้ากรณีที่ได้ยื่นร้องคัดค้านการประกาศรับรองผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.ทั้ง 20 กลุ่ม เนื่องจากพบข้อพิรุธการลงคะแนนที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ

โดย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ตนได้ยื่นคำร้องคัดค้านการประกาศรับรองผู้ได้รับเลือกตั้งให้เป็น สว. เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา และตนได้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ กกต.ได้สอบปากคำตนเพิ่มเติมจากคำร้องที่ได้ยื่นไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ กกต.ยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานการพบโพยลงคะแนนของผู้สมัคร สว. โดยหลังจากตนได้รับโทรศัพท์คืนในช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ได้นำมาถ่ายรูปตอนนับคะแนนกลุ่มผู้สมัคร สว. กลุ่ม 2 ไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อการนับคะแนนเสร็จสิ้น ก่อนเดินทางกลับบ้าน ตนได้พบผู้สมัครคนหนึ่งพกโพยเข้าในห้องน้ำ เมื่อตนนำมาเทียบดูคะแนน พบว่าสอดคล้องกับผลการนับคะแนนของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด ตนจึงมั่นใจว่าบุคคลเหล่านั้นต้องจัดตั้งการลงคะแนนก่อนวันลงคะแนน จากนั้นเมื่อมีผู้สมัคร สว.อีกคนเห็นตนถือใบโพย จึงนำโพยที่เขามีส่งให้ตนดู ซึ่งพบว่าเป็นเลขชุดเดียวกัน ทำให้ตนตั้งข้อสงสัยว่าโพยนั้นเป็นจริง

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันคำร้อง คือ 1.คัดค้านการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุด 1-10 ในแต่ละกลุ่มของทุกกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็น สว. จนกว่าจะมีการตรวจสอบว่าการได้รับผลการลงคะแนนของผู้สมัครที่คะแนนลำดับ 1-10 ของแต่ละกลุ่มนั้นเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม 2.ขอให้ กกต.เปิดหีบบัตรเลือกตั้งระดับประเทศ แล้วนำมานับใหม่ ทั้งการเลือกกันภายในกลุ่มภาคเช้า 20 กล่อง และการเลือกไขว้ภาคบ่าย 20 กล่อง อย่างเปิดเผย โดยใช้กระบวนการโดยใช้เครื่องกลหรือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตรวจสอบผลการลงคะแนนใหม่ แต่ถ้า กกต.เพิกเฉย อาจขัดกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 32 วรรคหนึ่ง  โดยมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของบุคคลดังกล่าว 20 ปี

เมื่อถามว่าการเลือก สว.ครั้งนี้ควรเป็นโมฆะหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ไม่ได้ การล้มการเลือก สว.ไม่ใช่หนทางแห่งประชาธิปไตย และไม่ใช่ผู้สมัครทั้งหมดที่เป็นคนไม่ดี ส่วนจะแก้ไข ก็ให้จัดเฉพาะกลุ่มสาขาอาชีพที่มีปัญหาเท่านั้น.