การนวดอาจช่วยให้เราหายปวดเมื่อย และผ่อนคลายได้ แต่ถ้านวดไม่ถูกวิธี ก็อาจเป็นอันตรายร้ายแรง

สื่อเวียดนาม soha เปิดเผยเรื่องราวอุทาหรณ์ของคนที่ชอบนวด เมื่อดอกเตอร์เหงียนดึ๊กมินห์ หัวหน้าแผนกฟื้นฟูสมรรถภาพ แห่งโรงพยาบาลดึ๊กเกียง ได้ออกมาเปิดเผยเคสที่เป็นกรณีศึกษา เมื่อมีคนไข้รายหนึ่งที่ไปเข้ารับการนวดคอ บ่า ไหล่ แบบไม่ถูกวิธี ทำให้ป่วยหนักจนถึงขั้นเป็นอัมพาตครึ่งซีก

คนไข้ดังกล่าว มีอาการปวดคอและไหล่ จึงเรียกหมอนวดให้มานวดที่บ้าน รวมทั้งมีการจัดกระดูกสันหลังด้วย ครั้งแรกที่ทำก็รู้สึกสบายตัว หายปวดเมื่อย จากนั้นจึงเรียกให้หมอนวดคนเดิมมานวดให้อีกครั้งที่ 2 แต่ในครั้งที่ 3 หลังนวดเสร็จ เขามีอาการอัมพาตครึ่งซีก ต้องถูกส่งตัวมารับการรักษาที๋โรงพยาบาล แพทย์พบว่าเขาป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ต้องรักษาตัวยาวถึง 9 สัปดาห์ ถึงจะออกจากโรงพยาบาล สามารถเดิน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อีกครั้งตามปกติ แต่ยังคงมีอาการชาที่แขนและขาขวา

ดอกเตอร์เหงียนดึ๊กมินห์ เผยว่าอาการป่วยหนักของคนไข้รายนี้ สาเหตุมาจากการนวดที่ไม่ถูกต้อง หลอดเลือดแดงอยู่ใกล้กับกระดูกสันหลังมาก หากหลังถูกบิดอย่างรุนแรงแบบผิดวิธี หลอดเลือดแดงก็อาจฉีกขาดได้ ทำให้เกิดเลือดคั่งและเป็นลิ่มเลือด การไหลเวียนของหลอดเลือดแดงกระดูกสันหลังบกพร่อง ทำให้เกิดอาการปวดเวียนศีรษะ ปวดคอ และเดินผิดปกติ เมื่อลิ่มเลือดเคลื่อนที่ไปปิดกั้นหลอดเลือดสมอง ก็ทำให้เกิดภาวะสมองตายได้

ในปัจจุบันคนทำงานนั่งโต๊ะใช้คอมพิวเตอร์ จะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ต้องไปหาหมอนวดผ่อนคลาย แต่การนวดไม่ควรดึงหรืองอบริเวณข้อต่อโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นอันตรายอย่างมาก อาจทำให้ข้อต่อกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น กระดูกสันหลัง และหลอดเลือด เสียดายได้ ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสจะเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ ที่ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก

ทั้งนี้ ดอกเตอร์เหงียนดึ๊กมินห์ ได้ให้คำแนะนำ 3 ข้อ สำหรับคนที่ต้องการไปนวดเพื่อผ่อนคลาย และแก้ปวดเมื่อยดังต่อไปนี้

  1. ให้ไปใช้บริการนวดเฉพาะในสถานที่ที่มีชื่อเสียง ได้มาตรฐาน ผู้นวดมีใบรับรองวิชาชีพในการเป็นหมอนวด
  2. เวลานวด ห้ามหมุน งอ หรือใช้แรงมากที่บริเวณคอ และกระดูกสันหลังเด็ดขาด
  3. หลังนวด หากมีอาการผิดปกติ ปวดรุนแรง หน้ามืด เวียนศีรษะ อาเจียน คลื่นไส้ มีปัญหาการเดิน ชา แขนขาอ่อนแรง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที.

ที่มาและภาพ : soha