เมื่อปี 2599 จิเซลล์ คาร์เดีย อ้างว่ารูปปั้นพระแม่มารี “Madonna di Trevignano” แห่งเมืองเตรวินญาโน โรมาโน ประเทศอิตาลี ในความดูแลของเธอ เริ่มหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด ทำให้ผู้มีศรัทธาจำนวนมาก หลั่งไหลกันมาเพื่อขอเข้าสักการะรูปปั้นนี้ เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ โดยคาร์เดียเป็นผู้จัดพิธีชุมนุมทุกวันที่ 3 ของเดือน

คาร์เดีย ยังอ้างว่า ตนเองเจอประสบการณ์เหนือธรรมชาติหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเธออ้างว่าเลี้ยงพิซซ่าให้คน 15 คน โดยที่มีพิซซ่าและอาหารอื่น ๆ ให้เสิร์ฟอย่างไม่รู้จบ เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่มารีที่ดลบันดาลไว้

ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธารูปปั้นนี้ เชื่อว่าคาร์เดียสามารถรับและถ่ายทอดสารจากพระแม่มารีโดยตรง รวมถึงเชื่อว่าเธอเคยทำนายเรื่องการเกิดโรคโควิด-19 ระบาด ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง

แต่เมื่อปีที่แล้ว ชาวเมืองเตรวินญาโน โรมาโน กลุ่มที่ไม่เชื่อตามคาร์เดียอ้างว่ารูปปั้นพระแม่มารีหลั่งเลือดได้ จึงร่วมกันว่าจ้างนักสืบเอกชน ซึ่งร่วมมือกับทหารตำรวจของอิตาลี เพื่อหาความกระจ่าง

รูปปั้นมาดอนนาแห่งเตรวินญาโน ที่มีผู้ศรัทธามาสักการะเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าเป็นรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์

หลังจากดำเนินการสืบสวน พวกเขาก็พบหลักฐานว่า ของเหลวสีแดงที่ปรากฏว่าไหลออกมาจากดวงตาของรูปปั้นพระแม่มารี คือเลือดหมู

นอกจากนี้ ผลจากการสืบสวนซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยการนำ “เลือด” จากรูปปั้นมาทดสอบหลายต่อหลายครั้งนั้น ผลที่ได้ออกมาคือเป็นเลือดมนุษย์ ที่มีดีเอ็นเอตรงกับดีเอ็นเอจากเลือดของคาร์เดีย

ล่าสุดสำนักวาติกันก็ได้แถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติตามที่คาร์เดียเคยกล่าวอ้าง โดยในวันที่ 27 มิ.ย. 2567 สมณกระทรวงแห่งพระสัจธรรมแห่งวาติกัน ออกเอกสารกฤษฎีกาฉบับแรก ตามระเบียบการใหม่ว่าด้วยการตรวจสอบการประจักษ์ของพระแม่มารีและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ พร้อมกับอ้างถึงรายงานผลการสืบสวนของสังฆมณฑลชิวิตา คาสเตยานา เกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติของรูปปั้นพระแม่มารีแห่งเตรวินญาโน ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนมีนาคม ปีนี้ และสรุปกรณีดังกล่าวว่า “เป็นที่ชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เหนือธรรมชาติ”

ด้านทางการของอิตาลีเชื่อว่า ขณะนี้ คาร์เดียได้หลบหนีออกจากบ้านเกิดของเธอในเตรวินญาโนไปแล้ว พร้อมกับเงินบริจาคจำนวนหลายแสนยูโร จากผู้มีจิตศรัทธา 

ที่มา : dailymail.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES