เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี พล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.และตัวแทนจากบช.ภ.1-9 ร่วมแถลงผลยุทธการพิทักษ์ประชาราษฎร์ 767 ปราบกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและแก๊งอาชญากรรมทั่วประเทศ หลังร่กระจายกำลังเข้าตรวจค้น 183 จุด ทั่วประเทศ

สำหรับ ภาพรวม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า ผลปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 87 ราย ยึดปืนไม่มีทะเบียน 746 กระบอก ปืนมีทะเบียน 134 กระบอก อาวุธสงคราม 2 กระบอก วัตถุระเบิด 3 ลูก ไซเลนเซอร์ 2 อัน กระสุนปืน 6,936 ลูก แมกกาซีน 40 อัน ยาบ้า 7 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 545.98 กรัม ยาเค 114.41 กรัม ยาอี 403 กรัม รถยนต์ 40 คัน รถจยย.79 คัน สมุดบัญชี 13 เล่ม และบัตรกดเงินสด 3 ใบ

ในส่วน บช.ก. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. กล่าวว่า ตำรวจบช.ก.พบหลักฐานว่าบริษัท ป.วีกนก ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ที่เป็นเครือข่ายของกำนันนกมีพฤติการณ์ทุจริตฮั้วการประมูล9โครงการของรัฐ โดยมีทีมฮั้วประมูล ทีมซื้อขายรายชื่อ และบริษัทที่สมยอมกว่า 70 บริษัท เมื่อวันที่ 24 – 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจึงได้เรียกผู้ต้องหา 32 รายมาแจ้งข้อกล่าวหา แต่มารับทราบข้อกล่าวหาเพียง 23 รายทั้งหมด ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ในส่วน 9 รายที่ยังไม่มาพบ อยู่ระหว่างประสานงาน ซึ่งคดีดังกล่าวได้มีการพิจารณาร่วมกับพนักงานอัยการ เนื่องจากเป็นคดีพิเศษ นอกจากเครือข่ายฮั้วการประมูลที่ จ.นครปฐม แล้ว ยังมีเครือข่ายฮั่วประมูล ในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม

ด้าน พล.ต.ต.ทินกร และตัวแทนบก.น.6 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมาชุดสืบสวนบก.น.6 ขยายผลจับแก๊งค้ายาเสพติดย่านอ่อนนุช กทม. ไปจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 13 ล้านเม็ด ปืนพกสั้น 1 กระบอกและเครื่องกระสุน ได้ในพื้นที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยทั้งหมดสารภาพว่าร่วมกันรับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลางโดยใช้รถกระบะตู้ทึบมาพักเก็บไว้ที่ อ.หนองเสือ ก่อนจะกระจายขายต่อไปยังจังหวัดต่างๆและกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 รายเป็นคนขับรถนำ สามารถหลบหนีไปได้ ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมต่อไป

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากปฏิบัติการอาชญากรรมและกลุ่มผู้มีอิทธิพลแล้ว ทางตำรวจยังได้เฝ้าจับตาดูบรรดา influencer อาชญากรรมรุ่นใหม่ ที่พยายามโฆษณาหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งทางตำรวจสืบสวนมีข้อมูลของแก๊งอาชญากรรม influencer เหล่านี้ไว้หมดแล้วและจะดำเนินการต่อไป

ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวปิดท้ายว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศท้าชน อาชญากรรม และผู้มีอิทธิพลทุกรูปแบบอย่างจริงจัง พร้อมยืนยันว่าหากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์และพิทักษ์ประชาราษฎร์ ซึ่งจะมีปฏิบัติการในลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง