เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่อาคารประชารักษ์ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เดินทางเป็นประธานแถลงผลปฏิบัติการยุทธการ “พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767” และเปิดใจครั้งแรก หลังกลับมาทำหน้าที่ ผบ.ตร. ว่า สำหรับการกลับมาทำงานในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับท่าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ที่ทำงานไว้ค่อนข้างจะเรียบร้อย ตนเพียงแค่มาทำต่อ และในส่วนนโยบายของตน Quick Win ที่เน้นเรื่องสวัสดิการข้าราชการตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าตอบแทนพนักงานสอบสวนต่างๆ สวัสดิการลดดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์ที่ได้ดำเนินการค้างไว้ และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มารับทำต่อ นอกจากนี้ ในเรื่องของปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ทางพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้รับมอบหมายตรงจากนายกฯ ซึ่งตนมีการทำงานร่วมกัน และมีการรายงานกันอยู่ตลอด

ด่วน! นายกฯ ลงนามคำสั่ง ให้ ‘บิ๊กต่อ’ กลับมานั่ง ผบ.ตร. วันนี้แล้ว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่อง มติ 12 : 0 นั้น ขอไม่พูดเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของการประชุม และสำหรับกระแสข่าวว่า ตนจะลาออกก่อนเกษียณนั้น เป็นเพียงการพูดกันไป ไม่ได้มีอะไร ตอนนี้ขอทำงานเต็มที่ และจะทำหน้าที่อย่างดี เมื่อหมดหน้าที่ก็ไป ที่เหลือให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้สามารถทำงานได้อย่างสบายใจแล้ว จะมีการเซ็นยกเลิกคำสั่งหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดเรื่องนั้นดีกว่า มันไม่ได้มีปัญหาอะไร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัย ในส่วนเอกสารที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยื่นให้ตนยกเลิกคำสั่งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นั้น ยังไม่เห็น และจะพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ ขอเอาไว้ก่อน อย่าถามเลยเพราะไม่ได้มีการขัดแย้งอะไรกัน ยืนยัน ตนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน อยู่กันแบบพี่น้อง ขออย่าให้เป็นประเด็นดีกว่า

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องตนนั้น ไม่หนักใจอะไร ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และสำหรับที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเรื่องบ้านของตน ก็มีหน้าที่ชี้แจงตามกระบวนการ ย้ำไม่ได้หนักใจ ส่วนผลงานทิ้งทวน 3 เดือนสุดท้ายนั้น จะทำตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล.