สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ว่า ศาลไฮคอร์ตในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีคำพิพากษา เมื่อวันพุธ ยกคำร้องของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องการรับโทษที่เหลือด้วยการกักบริเวณภายในบ้าน แทนการอยู่ในเรือนจำ โดยศาลกล่าวว่า คำร้องของจำเลย “ไม่มีมูล” และรัฐบาล “ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย” ในเรื่องนี้


อย่างไรก็ตาม ทนายความของนาจิบกล่าวว่า รัฐบาล “มีหน้าที่ตามหลักศีลธรรม” และยืนยันว่า อดีตผู้นำมาเลเซียจะอุทธรณ์เรื่องนี้


ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณาการพระราชทานอภัยโทษของมาเลเซีย ในรัชสมัยสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลเลาะห์ สุลต่าน อาห์หมัด ชาห์ แห่งรัฐปะหัง. ประกาศเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีมติลดบทลงโทษจำคุกของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี จาก 12 ปี เหลือ 6 ปี หมายความว่า นาจิบซึ่งปัจจุบันมีอายุ 70 ปี จะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ในวันที่ 23 ส.ค. 2571


อย่างไรก็ตาม นาจิบต้องชำระค่าเสียหาย 50 ล้านริงกิต (ราว 390.18 ล้านบาท) หากไม่มีการชำระค่าปรับดังกล่าว อดีตผู้นำมาเลเซียต้องรับโทษจำคุกเพิ่มอีก 1 ปี และจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 23 ส.ค. 2572 แทน


อนึ่ง ศาลฎีกามาเลเซียมีคำพิพากษา เมื่อเดือน ส.ค. 2565 ยืนบทลงโทษจำคุกอดีตผู้นำมาเลเซีย เป็นเวลา 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา และต้องชำระค่าเสียหายคืนแก่แผ่นดิน จากความผิดจริงตามคำฟ้องฐานยักยอกเงิน 42 ล้านริงกิต (ราว 327.75 ล้านบาท) จากเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนย่อยของกองทุนพัฒนาแห่งชาติ (วันเอ็มดีบี) เข้าสู่บัญชีส่วนตัว ทำให้นาจิบเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย ซึ่งต้องเข้าสู่เรือนจำจากความผิดฐานคอร์รัปชั่น.

เครดิตภาพ : AFP