ศึกยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม แฟรงค์เฟิร์ต อารีนา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทีมชาติโปรตุเกส ต้องลุ้นถึงฎีกาก่อนดวลจุดโทษดัวทีมม้ามืดอย่าง สโลวีเนีย ลงได้แบบสุดระทึก 3-0 หลัง 120 นาทีกินกันไม่ลงเสมอ 0-0 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ไปพบกับ ฝรั่งเศส คู่ปรับเก่าจากรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2016

เกมนี้ โปรตุเกส พับสนามบุกตลอดทั้ง 90 นาที และมีโอกาสลุ้นประตูมากกว่าชัดเจน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอที่จะพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ ทั้ง 2 ทีมจึงเสมอกันไป 0-0 และต้องไปสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ช่วงเอ็กซ์ตราไทม์ โปรตุเกส พลาดโอกาสพังประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อได้จุดโทษในนาทีที่ 105 แต่ คริสเตียโน โรนัลโด กลับยิงไปติดเซฟของ ยาน โอบลัค นายทวารสโลวีเนีย เสียอย่างนั้น

ขณะที่ สโลวีเนีย ก็มีโอกาสน็อก ทีมฝอยทอง เช่นกัน เมื่อ เปเป ทำบอลลั่นถูก เบนยามิน เชชโก ฉกบอลเข้าไปดวลกับ ดีโอโก คอสตา ตัวต่อตัว แต่ กองหน้าจากแอร์เบ ไลป์ซิก กลับยิงไปติดเท้าของ คอสตา อย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันได้อีกครบ 120 นาที โปรตุเกส เสมอ สโลวีเนีย 0-0 ต้องไปหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษผลปรากฏว่า โปรตุเกส ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 3-0 โดย คอสตา สวมบทซูเปอร์ฮีโร่เซฟจุดโทษของ สโลวีเนีย ได้ 3 ลูกรวด ขณะที่ตัวยิง 3 คนแรกของโปรตุเกสอย่าง โรนัลโด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ แบร์นาร์โด ซิลวา ยิงเข้าทั้หมด.

ภาพ AFP, gettyimages