เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น​ (กทม.)​ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีการประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ว่ามีหลายเรื่อง อาทิ เรื่องกฎหมายเช็ค ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่อง MOU ไทย-กัมพูชา รวมถึงกรณีคำร้องที่ขอให้ยุบพรรคก้าวไกล และกรณี 40 สว. ยื่นคำร้องขอให้เอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติ ว่า เอกสารพยานหลักฐานที่ส่งมาครบถ้วนหรือไม่ ส่วนจะมีการไต่สวนหรือไม่ ขอให้มีการคุยกันในองค์คณะก่อน ถึงตนจะเป็นประธานก็ยังตอบไม่ได้ ไม่สามารถไปแทรกแซงความเป็นอิสระของท่านอื่นได้ ดังนั้นขอให้รอฟังผลการประชุม อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คดีน่าจะเสร็จก่อนเดือน ก.ย.นี้แน่นอน แต่เรื่องไหนจะเสร็จก่อน ตนไม่ทราบ ทั้งนี้ในคดีของพรรคก้าวไกลเป็นเพียงแค่การขอเอกสารหลักฐานจากคู่กรณีเท่านั้น

เมื่อถามว่ามีความกดกันหรือกังวลอะไรหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า การทำงานเรามีการกดดันตัวเอง สังคมก็กดดันเรา เป็นที่เข้าใจได้เพราะเป็นคดีสำคัญ อย่างไรก็ตาม เราต้องมีความเที่ยงธรรม ดูให้พอเหมาะพอควร ให้เขาชี้แจงข้อสงสัย แล้วไปประชุมวินิจฉัยกันอีกครั้ง ย้ำว่า การตัดสินใจของศาลเป็นการตัดสินใจโดยองค์คณะ ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งองค์คณะก็มีความเห็นเป็นอิสระ ส่วนผลก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนในใบแถลงข่าว ใครเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย ตัดสินใจอย่างไรมีการเปิดเผยหมด 

เมื่อถามถึงกรณีคดีของพรรคก้าวไกลคู่กรณีออกมาเคลื่อนไหวมา 2 ครั้งแล้ว จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า จะต้องให้องค์คณะเป็นผู้พิจารณา ส่วนตัวคิดว่าไม่น่ามี เมื่อถามย้ำว่ากรณีที่พรรคก้าวไกลมีการแถลงข่าว จะถือว่าผิดคำสั่งศาลที่ให้หยุดเคลื่อนไหวหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า เป็นคำแนะนำ และคำเตือนของศาล ต้องดูความพอเหมาะพอดีพอควร ขอย้ำว่าศาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ตนหนึ่งในฐานะองค์คณะตุลาการจึงไม่ขอตอบโต้อะไร ส่วนเขาจะออกมาอธิบายอะไรได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับองค์คณะที่จะพิจารณา 

“สื่อมวลชนเห็นว่าทำได้หรือไม่ สังคมเสรีก็เป็นเช่นนี้ สังคมไทยมีสิทธิเสรีภาพพอสมควร เขาก็ดำเนินการไปในสิ่งที่เขาเห็นว่าพอเหมาะพอควร ยืนยันว่าศาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เพราะฉะนั้นศาลจะไม่ตอบโต้กับเรื่องเหล่านี้” นายนครินทร์  กล่าว.