สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์เผยแพร่แถลงการณ์ ว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจน เกี่ยวกับการห้ามส่งออกอาวุธไปยังเมียนมา และการไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในสิงคโปร์ เป็นฐานสำหรับการยักย้ายถ่ายโอน หรือการส่งออกอาวุธแบบ “ใช้เพื่อวัตถุประสงค์สองทาง” ไปยังเมียนมา เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีการนำยุทโธปกรณ์เหล่านั้นไปใช้เพื่อการทหาร ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงระดับร้ายแรง ให้แก่พลเรือน
อย่างไรก็ตาม การค้าขายและการทำธุรกรรม “ที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ระหว่างสิงคโปร์กับเมียนมา จะยังคงดำเนินต่อไป เพื่อเป็นการมอบความสนับสนุนที่จำเป็นและต่อเนื่อง ให้ถึงชาวเมียนมา
แถลงการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลสิงคโปร์ เป็นการตอบสนองต่อรายงานฉบับล่าสุดของนายโธมัส แอนดรูว์ส ผู้จัดทำรายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาให้กับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในชื่อ “ธนาคารและการค้าความตาย : ธนาคารและรัฐบาลสามารถช่วยเหลือรัฐบาลทหารเมียนมาได้อย่างไร”
The MFA Spokesperson has issued comments in response to media queries on the report released by United Nations Special Rapporteur on the situation of human rights in Myanmar Thomas Andrew on 26 June 2024.
— MFAsg (@MFAsg) June 28, 2024
Read the comments:https://t.co/c8Xf68Fzpk
รายงานระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติกดดันให้การซื้ออาวุธของรัฐบาลทหารเมียนมา ผ่านกลไกการเงินระหว่างประเทศลดลง 1 ใน 3 จากปีงบประมาณ 2565 ถึงปีงบประมาณ 2566 ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาระหว่างเดือน มี.ค. ถึงเดือน เม.ย. ของแต่ละปี โดยมูลค่าล่าสุดอยู่ที่เพียง 253 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,295.22 ล้านบาท)
ทั้งนี้ การซื้อขายอาวุธผ่านสิงคโปร์ ที่แอนดรูว์สเคยระบุว่า อยู่ในกลุ่มประเทศผู้ค้าอาวุธรายใหญ่อันดับต้นของรัฐบาลทหารเมียนมา “ลดลงมากอย่างมีนัยสำคัญ” ในช่วงหลังการรัฐประหาร เมื่อปี 2564 เนื่องจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ยกระดับมาตรการตรวจสอบ โดยมูลค่าการซื้อขายระหว่างปีงบประมาณ 2565 ถึงปีงบประมาณ 2566 ลดลงจาก 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,041.40 ล้านบาท) เหลือเพียง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 367.40 ล้านบาท) หรือลดลงประมาณ 90%
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายอาวุธของรัฐบาลทหารเมียนมา ผ่านบริษัทและสถาบันการเงินซึ่งจดทะเบียนในไทย ที่ในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า เป็น 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,408.80 ล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นการซื้ออุปกรณ์เคมี เครื่องจักร ไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ ทั้งนี้ทั้งนั้น แอนดรูว์สยืนยันว่า ข้อมูลในรายงานไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลไทยมีความเกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นหรือไม่.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES