จากนั้นเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมายังศาลาประชาคมบ้านผึ้งออก ต.โนนผึ้ง อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้การต้อนรับด้วย

เมื่อมาถึง นายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ และได้ซื้อลอตเตอรี่ที่แม่ค้านำมาขาย หลังโอดครวญว่าช่วงนี้ขายลอตเตอรี่ไม่ค่อยดี โดยนายกฯ ตั้งใจจะซื้อหมายเลข 27 ซึ่งตรงกับเลขทะเบียนรถยนต์ แต่ปรากฏว่าที่แผงลอตเตอรี่ไม่มีเลขดังกล่าว นายกฯ จึงให้คณะทำงานเป็นคนจัดการ โดยระบุว่า เลือกหมายเลขอะไรก็ได้เพราะไว้ใจ

จากนั้น นายกฯ รับฟังปัญหาในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุทกภัย โดยเฉพาะที่ลำห้วยน้ำจาง เป็นลำห้วยขนาดเล็กกว้าง 8 เมตร ยาว 6 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาตื้นเขินในช่วงฤดูแล้ง ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ และในฤดูน้ำหลาก จะมีน้ำไหลบ่าจากห้วยลำผับ ที่ไหลมาจาก อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อเตรียมการป้องกันการเกิดอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยกรมชลประทานและกรมพัฒนาที่ดิน และหน่วยงานในพื้นที่ได้ร่วมกันจัดทำแผนงาน และโครงการ เพื่อขุดลอกลำห้วยจัดทำเป็นแก้มลิง ฝายกักเก็บน้ำ พร้อมระบบกระจายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะเสนอโครงการเพิ่มเติม จำนวน 16 แห่ง งบประมาณ 410 ล้านบาท 

ร.อ.ธรรมนัส ร่วมถ่ายภาพเซลฟี่กับประชาชนที่มารอต้อนรับ

ด้านนายกฯ ได้สอบถามเรื่องปริมาณและสถานการณ์น้ำในปีนี้ของ จ.อุบลราชธานี จะเยอะกว่าปีที่แล้วหรือไม่ และเมื่อปีที่แล้วน้ำไม่ท่วม ปีนี้น้ำก็ต้องไม่ท่วม ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวยืนยันว่า “ปีนี้เอาอยู่” ต่อมานายกฯ ได้มอบพันธุ์ปลา จำนวน 120,000 ตัว ให้กับประชาชนในพื้นที่ และมอบพันธุ์โคกระบือเพื่อการเกษตร ตามพระราชดำริ จำนวน 60 ตัว มูลค่า 1,680,000 บาท

ทั้งนี้ นายกฯ ได้แนะนำรัฐมนตรีที่ร่วมลงพื้นที่ซึ่งมีจำนวนมาก พร้อมระบุว่า ที่กล่าวรายชื่อทุกคนมายาว มีหลายท่านมา พี่น้องคงรู้ว่ารัฐบาลนี้เป็นปึกแผ่น มีรัฐมนตรี รองนายกฯ จากทุกพรรค ขาดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคเดียว ที่มาวันนี้เห็นความสำคัญของปัญหาพี่น้องชาวอุบลราชธานีครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกษตรกร ซึ่งวันนี้ได้มีการมามอบโคกระบือและพันธุ์ปลา รวมถึงปัญหาของน้ำ ถือเป็นเรื่องใหญ่สุด และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ปัญหาใหญ่ของ จ.อุบลฯ นอกเหนือจากปัญหาเรื่องยาเสพติดแล้ว รัฐบาลได้มีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง

นายกฯ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่สำคัญที่มาที่นี่ ซึ่งได้มา 2 ครั้งแล้ว ระหว่างนี้ได้มีการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เกี่ยวกับน้ำท่วมที่ท่วมแล้วท่วมอีก และน้ำแล้งที่ จ.อุบลฯ และจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างทั้งหมด ซึ่งเรารู้หากมีน้ำท่วม มีน้ำแล้ง เศรษฐกิจก็ไม่ดี พี่น้องก็เดือดร้อน รัฐบาลสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ วันนี้เรามีนโยบายระยะสั้นกลางยาวครบวงจร ทำให้ จ.อุบลราชธานี และอีสานตอนล่าง จะไม่ท่วมไม่แล้งตลอดไป 

“ปีที่แล้ว ถือเป็นปีแรกของหลายๆ ปี ปริมาณน้ำไม่ท่วม ถึงท่วมก็ท่วมน้อยกว่าปีอื่น และเป็นปีแรกที่เราไม่ได้มาใช้เงินอย่างเดียว แต่มีการใส่ใจ จึงขอให้ ร.อ.ธรรมนัส และอธิบดีกรมชลประทาน มหาดไทย ให้ความสำคัญก่อนจะถึงหน้าฝนใหญ่เดือน ต.ค. ซึ่งจะมีการปล่อยน้ำ ต้องบริหารจัดการน้ำก่อน เพื่อทำให้ จ.อุบลราชธานี น้ำไม่ท่วม หรืออาจจะมีท่วมบ้างก็ต้องเล็กน้อย ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนของภาครัฐบาล ที่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เอาความเดือดร้อนของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง” นายกฯ กล่าว.